เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ออกมาระบุเรื่องเด็กเร่ร่อน อายุ 9 ขวบ สูบกัญชากลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ขอให้ รมว.สาธารณสุข รับผิดชอบที่ปลดล็อกกัญชาออกจากเสพติด ทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้นโดยนายอนุทิน ย้ำว่า การปลดล็อกกัญชาไม่ได้เกิดจาก รมว.สาธารณสุข แต่เกิดจากมติในที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ที่มีผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกหน่วยงาน และตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) รับผิดชอบโดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เป็นผู้ดูแล
“ตอนนี้ทุกอย่างผ่านกระบวนการด้านนโยบายไปหมดแล้ว ต่อไปคือการกำกับดูแลในภาคปฏิบัติ ดังนั้นผมจะแจ้งไปยัง รมช.สาธารณสุข ให้ใช้อำนาจของกรมการแพทย์แผนไทยฯ ที่ดูแลการใช้กัญชาให้ถูกต้องตามเจตนารมย์ของกฎหมาย หาก ส.ส.บัญญัติ หรือ ส.ส.ท่านใด พบเห็นการกระทำที่มีความผิดตามประกาศ สธ. ไม่ว่าจะเป็นการจำหน่ายออนไลน์หรือเสพสูบในที่สาธารณะใดๆ สามารถแจ้งไปยังท่าน รมช.สาธิต เพราะท่านดูแลกรมการแพทย์แผนไทยฯ ท่านอยู่พรรคการเมืองเดียวกัน น่าจะคุยกันรู้เรื่อง และขอแนะนำ ส.ส.ปชป. ที่ตั้งคำถามกรณีการดูแลเด็กเร่ร่อน ให้ไปหารือกับ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งอยู่พรรคเดียวกัน จะเป็นการดีอย่างมากเพราะคงไม่ได้ป้องกันแค่กัญชา แต่น่าจะดูแลไปถึงสารเสพติดอื่นด้วย” นายอนุทิน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่าช่วงเช้าวันเดียวกัน ที่รัฐสภา นพ.บัญญัติ เจตนจันทร์ ส.ส.ระยอง พรรค ปชป. แถลงเรียกร้องให้นายอนุทิน รับผิดชอบหลังมีการเผยแพร่ภาพของเด็กชายนั่งจับกลุ่มล้อมวงและกำลังดูดกัญชากัน บริเวณชายหาดพัทยา ในฐานะผู้กำหนดนโยบายปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ทำให้เยาวชนเข้าถึงกัญชาได้โดยง่าย จนถูกตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการมากกว่าการแพทย์
“ผมขอถามนายอนุทินและหมดในกระทรวงสาธารณสุขว่า รู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับเยาวชนฐานะผู้กำหนดนโยบายปลดล็อกกัญชาออกจากบัญชียาเสพติด และเพราะนโยบายกัญชาเสรีของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้กระทรวงสาธารณสุขไม่มีเครื่องมือควบคุมไม่ให้กัญชาไปถึงเยาวชนและกลุ่มเปราะบาง ผมขอเรียกร้องให้หาวิธีแก้ไข อย่ารอร่างกฎหมายกัญชา กัญชง ที่รอพิจารณาของสภาฯ และต้องผ่านการพิจารณาของวุฒิสภา” นพ.บัญญัติ กล่าว.
