เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีพรรค พท. เปิดตัวเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง จำนวน 57 คน โดย 1 ใน 57 คน มีชื่อนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จะลงสมัคร ส.ส.กาญจนบุรี เขต 4 จนเป็นที่ฮือฮาเพราะเคยมีวิวาทะกับตน ว่า ตนทำงานรับใช้และต่อสู้พวกเผด็จการให้กับพรรค พท. มา 10 กว่าปี ก็ไม่คิดว่าพรรค จะจัดได้เต็มคาราเบลกับตนเช่นนี้เหมือนกัน ทำให้ตนต้องคิดมากขึ้นในเรื่องแนวทางการเมืองนับจากนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ผู้ใหญ่ที่ให้ความเคารพนับถือของพรรคเรียกให้ตนไปพูดคุยแล้ว ก็ยืนยันแล้วแต่ผลออกมาเป็นเช่นนี้ ตีความได้อย่างเดียวว่าตนไม่มีคุณค่ากับพรรค พท. อีกต่อไป อย่าคิดว่าคนที่เคยด่าร้ายผู้หลักผู้ใหญ่ของพรรคเป็นปรปักษ์ของพรรคมาตลอด จะทำอะไรกับพรรค พท. ก็ได้ อยากจะไปก็ด่าพรรค เอาใจ 3 ป. อยากจะกลับมาก็เชลียร์

ส่วนกลไกการขับเคลื่อนด้านติดตามตรวจสอบทุจริตของตนยังเดินอย่างต่อเนื่อง ขอให้มั่นใจได้ว่า ใครจะเข้ามาบ้านนี้ด้วยวิธีการแบบใดตนไม่รู้ แต่รู้อย่างเดียวว่าถ้าพรรค พท. เป็นพรรคการเมืองที่ตนเคารพนับถือต้องอธิบายให้ได้ ไม่เช่นนั้นหลักการที่ตนศรัทธามาตลอด 10 กว่าปีจะสิ้นไป ซึ่งปีที่แล้วตนต่อสู้กับเรื่องเหล่านี้จนบอบช้ำ พรรคก็ไม่เคยให้ความช่วยเหลืออะไรตนอยู่แล้ว ตนถูกนายศักดิ์ดากลั่นแกล้ง ไปยื่นฟ้องที่สายบุรี จ.ปัตตานี พื้นที่เสี่ยงภัย ซึ่งเรื่องขี้หมามาก แต่หวังให้ตนเสี่ยงชีวิต แต่ตนต่อสู้คดีจนชนะและฟ้องกลับเรียกค่าเสียหายทั้งทางอาญาและทางแพ่งไป 25 ล้านบาท และนายศักดิ์ดายังกลั่นแกล้งโดยใช้ตำแหน่งอธิบดี ยื่นร้องจริยธรรมตนต่อรัฐสภา จนมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนและลงมติว่าการร้องไม่มีมูลความจริงให้ยกคำร้อง อีกทั้งยังมีการร้องตนในเรื่องเดียวกันไปที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยมีเจตนาพิเศษให้ตนติดคุกติดตะราง หมดอนาคตทางการทางเมือง

นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า ทั้งที่ตนประกอบคุณงามความดีมาตลอดชีวิตการเมือง จนเป็นที่ประจักษ์ในสังคม ตนไม่เคยรู้จักกับนายศักดิ์ดาหรือมีเรื่องโกรธแค้นใดกันมาก่อนแม้แต่น้อย ยังทำตนได้ขนาดนี้ ตนทำหน้าที่ในฝ่ายค้านในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน ซึ่งมารู้ทีหลังว่า เขามีข้อพิพาทกับ ส.ส.พรรค พท. และด่าพรรคมาตลอด 2-3 ปีมานี้ ถามจริงๆ เถอะ จะให้ตนยืนให้ตบหัวเล่นเฉยๆ หรืออย่างไร นับจากนี้ตนจะเข้มข้นในการตรวจสอบประวัติของผู้สมัครของพรรค พท. โดยเฉพาะทุกคนที่เคยอยู่พรรคตรงข้าม เพราะวันนี้พอจะแลนด์สไลด์แห่กันเข้ามา คนอยู่บ้านเป็นหมาเฝ้าบ้านแบบพวกตน ควรปฏิบัติตนแบบไหนดี สำหรับตนถ้าไม่อยู่พรรค พท. ตนก็จะไปเป็นภาคประชาชน เพื่อติดตามตรวจสอบไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาล จะใช้วิชาชีพที่เคยเป็นนักข่าว สืบสวนสอบสวนมาตลอดทั้งชีวิต ทำงานเพื่อให้สังคมน่าอยู่.