เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. นายคำสิงห์ เนตรน้อย อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 143 หมู่ 4 ต.วังชัย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองได้ไปการค้ำประกันการซื้อรถ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นแคมรี หมายเลขทะเบียน ขย 196 ขอนแก่น ในราคา 528,000 บาท ให้กับนายมานะ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี พ่อของดารานักแสดงชื่อดังคนหนึ่ง แต่ถูกบังคับคดีจากศาลจังหวัดขอนแก่น ให้ทำการยึดทรัพย์ของตนเอง ในฐานะคนค้ำ เนื่องจากผู้ซื้อไม่จ่ายค่างวด และไม่ยอมคืนรถยนต์ที่ผ่อนซื้อ

นายคำสิงห์ เปิดเผยว่า เมื่อปี พ.ศ. 2562 ตนเองได้ไปค้ำประกันรถยนต์ให้พ่อดาราคนหนึ่ง ซึ่งแกไม่ผ่อนรถตามสัญญา โดยนำรถไปจำนำและขายต่อ จากการนำสืบของบริษัทที่เช่าซื้อทราบว่ารถยนต์ โตโยต้า แคมรี คันนี้ไม่สามารถนำไปคืนไฟแนนซ์ได้ เพราะถูกขายทอดตลาดไปแล้ว จนกระทั่ง 2 ปีต่อมามีหมายศาลมาให้ ผู้เช่าซื้อ คือนายมานะ ไปขึ้นศาล แต่แกก็ไม่ยอมไปตามหมายศาล กระทั่งเมื่อเดือน ต.ค. 65 ได้มีหมายบังคับคดีมาที่ตนเองในฐานะที่เป็นผู้ค้ำ ตรวจสอบรายละเอียด ว่าตนเองจะโดนยึดบ้าน ยึดที่ดิน ยึดทรัพย์สิน ซึ่งนายมานะ ไม่รับผิดชอบอะไรเลย บ้านผมก็จะโดนยึดในสองสามวัน ตัดสินใจไปหาครอบครัวนายมานะ แต่ทางนั้นเขาไม่ช่วยอะไรสักอย่าง ตนจึงตัดสินใจเด็ดขาดไปเลย จึงนำรถยนต์ของตนเองไปเข้าไฟแนนซ์ ราคา 3 แสนกว่าบาท เพื่อไปจ่ายกับบังคับคดี เนื่องจากเกรงทรัพย์สินจะถูกยึด

“แต่เรื่องก็ยังไม่จบ หลังจากที่ตนเองหาเงินไปปิดคดีไม่ให้ถูกยึดบ้านและที่ดิน ยังมีหนี้สินระหว่างตนกับนายมานะ เนื่องจากตนเองมีความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก จากการที่นำเงินไปปิดบัญชีรถ และดอกเบี้ยเงินกู้ไฟแนนซ์ที่มันสูงมากแต่ละเดือน จึงนัดพูดคุยไกล่เกลี่ยกันที่ สภ.น้ำพอง เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 65 โดยได้ตกลงกันว่าทางผู้กู้ จะขอแบ่งจ่ายเป็น 12 งวด งวดละ 25,000 บาท โดยงวดแรกเริ่มวันที่ 2 พ.ย. 2565 โดยมีข้อแม้ว่า หากผู้กู้ผิดสัญญาชำระเงินกู้ ผู้กู้ยินยอมจ่ายดอกเบี้ยร่วมให้กับผู้ให้กู้เป็นเงินจำนวน 27,000 บาท โดยสัญญาในการกู้ยืมเงินจำนวน 300,000 บาท ซึ่งได้ลงบันทึกการทำสัญญากันต่อหน้าพนักงานสอบสวน” นายคำสิงห์ กล่าว

นายคำสิงห์ กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้ทำสัญญากัน ทางผู้กู้ไม่ได้จ่ายเงินตามสัญญา จนเวลาล่วงเลยผ่านไป ทางนายมานะ ได้แจ้งว่าจะจ่ายให้เพียง 25,000 บาท และไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ยที่ทำสัญญาข้อตกลงกันไว้ โดยล่าสุดก็มีการนัดกันว่าไปไกล่เกลี่ยเรื่องการชำระเงินที่โรงพัก เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ที่ผ่านมา สุดท้ายแกก็ไม่ไป โทรศัพท์หาก็ไม่รับสาย จึงตัดสินใจโทรฯไปหาลูกชาย ซึ่งเป็นดาราชื่อดัง ก็รับปากว่าจะเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่ถึงตอนนี้ผมจวนตัวแล้ว ทางครอบครัวเขาไม่ทำตามคำพูด ไม่สามารถช่วยผมได้เลย ผมต้องแบกภาระอยู่เพียงคนเดียว ไหนจะเงินที่ฝ่ายนายมานะไม่รับผิดชอบ และหนี้สินที่ตนต้องเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ ซึ่งตนเองขอแค่ให้ทางฝ่ายครอบครัวดาราให้มาปิดปัญชีทั้งหมดให้กับตนเองเท่านั้นเอง.