เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีนายศุภชัย โพธิ์สุ ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในฐานะรองประธานสภาฯ คนที่ 2 สบถถ้อยคำหยาบคาย ระหว่างปราศรัยในประเด็นการจัดสรรงบประมาณของกระทรวงคมนาคม ที่ จ.นครพนม ว่า ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นนายศุภชัย ดูไม่สงวนท่าทีอะไรเลย การใช้คำว่าไอ้โง่อะไรต่างๆ น่าแปลกใจว่า รองประธานสภาฯ จะใช้คำแบบนี้ สภาฯ พยายามสร้างความเป็นธรรมในการจัดสรรงบ ไม่ใช่ว่าจังหวัดหนึ่งได้ ส.ส. ที่ไม่ได้เป็นรัฐบาล จะไม่ได้รับงบพัฒนา งบประมาณควรสร้างความเป็นธรรม ไม่ทอดทิ้งจังหวัดไหนของประเทศไทยไว้ข้างหลัง แต่นายศุภชัยได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่า ไอ้ความเป็นธรรมในการจัดสรรงบมันไม่ต้องมีก็ได้ และเป็นการยืนยันว่า มีการวิ่งเต้นงบจริง เพื่อเอาเงินไปลงพื้นที่ หรือใช้สำหรับบางพื้นที่ เฉพาะที่เป็นพื้นที่ที่ ภท. มี ส.ส. อยู่

“มันเป็นการยืนยัน ผมใช้คำว่าสารภาพเลยแล้วกันว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม มีการจัดสรรงบ ที่ให้ความสำคัญกับ ภท. ที่อยู่ในพื้นที่มากที่สุด และตกลงแล้วการที่ ภท. เข้ามาเป็นรัฐบาล เขาไม่ได้คิดว่า เขาเป็นรัฐบาลของทุกคนใช่ไหม แต่เป็นรัฐบาลของจังหวัดพื้นที่ที่มี ส.ส.ภท. ใช่ไหม ขอให้ประชาชนรับทราบว่า พรรคนี้ถ้าเข้ามาในการเมืองไทยแล้ว เขาไม่ได้พัฒนาทุกพื้นที่ เขาเน้นให้ความสำคัญแต่พื้นที่ตัวเอง ก็ต้องมาคิดกันว่า สมควรจะให้มีนักการเมืองที่มีวิธีคิดแบบนี้เข้ามาในการเมืองไทยไหม แล้วสมควรให้พรรคนี้เป็นรัฐบาลต่อไปไหม”

เมื่อถามว่าไม่เลือก ไม่ให้ ได้หรือไม่ นายรังสิมันต์ตอบว่าไม่ได้ ถ้าทำกันแบบนี้ คุณไม่ใช่รัฐบาลของทุกคนแล้ว สิ่งที่นายศุภชัยทำ พยายามใช้เรื่องงบประมาณ เรื่องการเป็นรัฐบาลมาต่อรอง มาหาเสียงว่า นี่เลือกภูมิใจไทยสิ เดี๋ยวเขาวิ่งเอางบมาให้ วิธีแบบนี้มันอันตราย ไม่ทำให้ประเทศพัฒนาจริงๆ สุดท้ายคือหารวิ่งงบกัน ซึ่งพูดกันตรงๆ นะ เผลอๆ ผิดกฎหมายด้วย แต่ประเด็นคือประเทศเราจะเจริญหรือไม่ ต้องคิด บนพื้นฐานว่างบที่ใช้ เป็นไปตามความจำเป็น ถูกต้อง เป็นธรรมหรือไม่ สิ่งที่ออกมาเสดงให้เห็นว่า ภท. เขาบริหารประเทศ ถ้า ภท. เป็นรัฐบาลหลัก ไอ้การบริหารประเทศแบบนี้ มันจะพาชาติล่มจม ไม่ได้คิดถึงว่า ตกลงแล้วอะไรคือความจำเป็น สุดท้าย วิธีคิดของ ภท. คือ เขาจะใส่เงินไปเยอะๆ กับพื้นที่ ที่มี ส.ส.ภท. หวังว่า ประชาชนจะมองเรื่องนี้ว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่ควรเกิดขึ้น

เมื่อถามว่า มองอย่างไร ภท. ตอนนี้เปิดศึกกับทั้ง ปชป. เรื่องกัญชา และล่าสุดเปิดศึกกับฝ่ายค้าน ด้วยคำพูดของนายศุภชัย จะกระทบงานสภาฯ ช่วงท้ายรัฐบาลมากน้อยแค่ไหน นายรังสิมันต์ ตอบว่า ตนคิดว่านายศุภชัย คงมองแล้วว่า สภาฯ คงเดินไปไม่ได้ง่าย ดังนั้น จะวางหัวโขนทิ้งไว้ กทม. มันก็เป็นช่วงหาเสียงเต็มที่ ภท. คงไม่สนใจแล้วว่าจะเปิดศึกกับใคร เพียงแต่การแข่งขันทางการเมือง อยากให้มองพื้นฐานหลักการที่ถูกต้อง การมาบอกกับประชาชนว่า ต้องเลือก ภท. ถึงจะได้รับงบ เรื่องนี้อันตราย

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การพูดของนายศุภชัยทำนองนี้ถือว่าผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ อย่างไร นายรังสิมันต์ ตอบว่า จริงๆ มันผิด มันเป็นการยืนยันว่า ส.ส.ภท. อาจจะเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับงบประมาณหรือเปล่า ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 144 เขาไม่ให้ไปวิ่งเต้นยุ่งเกี่ยว หรือไปมีผลประโยชน์ได้เสียกับงบประมาณ นายศุภชัยพูดเป็นนัยๆ หรือเปล่า ว่า เอ๊ะ อันนี้มันคือการบอกว่าตัวเองมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะไปเสนองบในพื้นที่ของตัวเอง ตนคิดว่าถ้าทำกันแบบนั้น ก็สุ่มเสี่ยงจะผิดกฎหมาย ด้วยความหวังดี ว่า ประโยคแบบนี้ไม่ใช่คำพูดที่รัดกุมในทางกฎหมายเลย