สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานจากรัฐมิโชอากัน ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ว่า เมื่ออากาศบนภูเขาอุ่นขึ้น ผีเสื้อจักรพรรดิจะบินผ่านเหนือผู้มาเยี่ยมชมภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้ทุกปี แม้พวกมันจะถูกคุกคามโดยแรงกดดันจากสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ก็ตาม

ในทุก ๆ ปี ผีเสื้อจักรพรรดิอพยพจะเดินทางไกลถึง 3,000 กม. จากทางตะวันออกของสหรัฐและแคนาดา เพื่อใช้ชีวิตช่วงฤดูหนาวท่ามกลางป่าไม้ทางตอนกลางและตะวันตกของเม็กซิโก ในเขตรักษาพันธุ์ผีเสื้อเซียร์ราชินกัวที่งดงามของรัฐมิโชอากัน ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนให้มาเยี่ยมชมในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ในฤดูหนาว

เมื่อปี 2529 เขตรักษาพันธุ์ผีเสื้อเซียร์ราชินกัว ถูกนำเข้าไปยังเขตสงวนชีวมณฑลผีเสื้อจักรพรรดิที่ได้รับการคุ้มครอง ซึ่งปัจจุบันเป็นแหล่งมรดกโลกขององค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) โดยครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 138,000 เอเคอร์

ตามข้อมูลขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (ไอยูซีเอ็น) ซึ่งประกาศให้ผีเสื้อจักรพรรดิเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ประชากรผีเสื้่อจักรพรรดิอพยพลดลงระหว่าง 22% และ 72% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยนักวิทยาศาสตร์กล่าวโทษการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ, สารกำจัดศัตรูพืช และการตัดไม้อย่างผิดกฎหมาย ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชากรผีเสื้อลดลง

อย่างไรก็ตาม การอพยพของปีที่แล้วให้สัญญาณแห่งความหวังต่ออนาคตของผีเสื้อจักรพรรดิ เนื่องจากการปรากฏตัวของพวกมันในเม็กซิโกเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ใน 3 เมื่อเทียบกับปี 2563

ด้าน นายลูอิส มาร์ติเนซ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ดูแลเขตรักษาพันธุ์ผีเสื้อเซียร์ราชินกัว คาดว่าปีนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมไปในทางดีขึ้น เพราะฝูงผีเสื้อจักรพรรดิมีขนาดใหญ่กว่าเดิม ทำให้พวกมันอพยพมาที่นี่มากขึ้นเช่นกัน.

เครดิตภาพ : REUTERS