บรรยากาศหุ้นไทยวันที่ 19 ส.ค.64 เคลื่อนไหวในแดนบวกและลบ นักลงทุนเริ่มกังวลหลังจากการรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณชัดเจนถึงความเป็นไปได้ในการปรับลดวงเงินในโครงการคิวอีในปีนี้หลังเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวได้ดี ทำให้เงินลงทุนต่างประเทศมีแนวโน้มไหลออกจากตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีปิดที่ 1,544.28 จุด ลดลง 7.59 จุด หรือ 0.49% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 78,153.87 ล้านบาท ส่วนตลาดเอ็มเอไอ ปิดที่ 497.30จุด เพิ่มขึ้น 3.52 จุด หรือ 0.71% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4,808.77 ล้านบาท

รายงานข่าวจาก บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า การลงทุนในระยะสั้นนี้ แนะนำนักลงทุนคงน้ำหนักหุ้นต่างประเทศไว้ที่ 35% ส่วนตลาดหุ้นไทยยังมีความกังวลจากการแพร่ระบาดโควิดที่เร่งตัวขึ้น ฝ่ายวิจัยฯ จึงตัดสินใจลดน้ำหนักหุ้นไทยเหลือ 25% โดยเน้นการลงทุนในหุ้นผันผวนต่ำ หรือปันผลสูงเป็นหลัก ขณะที่สัดส่วนการลงทุนในตราสารลงทุนอื่นๆ เน้นลงทุนในผลิตภัณฑ์ที่ลงทุนในหุ้นไทย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงจากสภาวะตลาดหุ้นผันผวน และขาดปัจจัยหนุนได้เป็นอย่างดี พร้อมกับคงน้ำหนักตราสารหนี้ไว้ 15% สุดท้ายตลาดเงินเพิ่มน้ำหนัก 5% เป็น 15% รอจังหวะลงทุนในเดือนถัดไป

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่

1.ฮานา ปิดที่ 79.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท

2.พีเอสแอล ปิดที่ 23.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

3.ธ.กสิกรไทย ปิดที่ 106.00 บาท ลดลง -0.50 บาท

4.บี ปิดที่ 0.91 บาท เพิ่มขึ้น 0.09 บาท

5.เคซีอี ปิดที่ 86.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท