เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และ พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช หรือ “สารวัตรแรมโบ้” ประธานมูลนิธิป้องกันต่อต้านอาชญากรรมและยาเสพติดในประเทศไทย ยื่นหนังสือผ่านนายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อส่งไปถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย (มท.1) นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัด มท. และนายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง (ปค.) เพื่อขอให้แก้ระเบียบการแปลงสัญชาติ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มทุนจีนสีเทา
พ.ต.อ.สุรโชค กล่าวว่า กลุ่มทุนจีนสีเทาที่ทำมาหากินอย่างผิดกฎหมาย กระทบอย่างร้ายแรงต่อความมั่นคงประเทศ ควรมีกฎหมายที่มีบทลงโทษสถานหนัก เช่น จำคุกสูงสุด 20 ปี ถึงตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต จึงขอให้ รมว.มหาดไทย ปลัด มท. และอธิบดี ปค. เร่งดำเนินการ 1.จัดตั้งชุดฝ่ายกฎหมายการแปลงสัญชาติให้รัดกุม หากพบว่ามีการผิดกฎหมายร้ายแรง ต้องถูกถอนสัญชาติส่งกลับประเทศถิ่นกำเนิดและต้องยึดทรัพย์ให้ตกเป็นของแผ่นดินทันที และ 2.ตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษเปิดยุทธการรุกเข้าตรวจค้นและจับกุมทันที โดยเฉพาะตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำใน กทม. ที่มีคนจีนเข้ามาซื้อกิจการไว้ และแหล่งชุมชนที่มีคนจีนเช่าจำนวนมาก รวมทั้งตั้งศูนย์รับแจ้งจากประชาชนทั่วประเทศ กรณีที่มีคนเสียชีวิตแล้วต้องตรวจสอบว่า มีการแจ้งต่อทางราชการอย่างถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากพบว่ามีการนำเอาคนจีนมาสวมสิทธิแทน โดยใช้เลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต
นายวัชระ กล่าวว่า ตนขอสอบถาม รมว.มหาดไทย เกี่ยวกับคดีของนายตู้ห่าว อาทิ การอนุมัติสัญชาติไทยให้บุคคลต่างด้าวในสมัย รมว.มหาดไทย ที่ผ่านมา มีจำนวนทั้งสิ้นกี่ราย ต้นทางสัญชาติใดบ้าง 2. กระทรวงมหาดไทย ติดตามพฤติกรรมผู้ได้สัญชาติไทยหรือไม่ 3.มีข่าวว่าต้องมีการจ่ายเงินจำนวนมากในการโอนมาเป็นสัญชาติไทยจริงหรือไม่ เป็นต้น
“จากกรณีกระทำความผิดของนายห่าว เจ๋อ ตู้ กับพวก สะท้อนให้เห็นว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางส่วนไปตอบสนองและสนับสนุนการกระทำดังกล่าว ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ขอให้พิจารณาตั้งชุดเฉพาะกิจ เพื่อดำเนินการป้องกันและปราบปรามตรวจค้นในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดภายใน 30 วัน” นายวัชระ กล่าว.