เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. ที่อาคารอนาคตใหม่ แกนนำพรรคก้าวไกล นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค และนายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค แถลงเปิดนโยบาย “ราชการไทยก้าวหน้า” สรุปใจความสำคัญคือ นโยบายราชการไทยก้าวหน้าแบ่งเป็น 3 ด้าน รวม 23 นโยบาย ประกอบด้วย 1.ด้านที่หนึ่ง รัฐโปร่งใส ไร้กลโกง ทุกคนตรวจสอบได้ 2.ด้านที่สองข้าราชการทำงานฉับไว คุ้มค่าภาษีประชาชน 3.ด้านที่สาม ตำรวจของประชาชน พิทักษ์สันติราษฎร์
นายพิธา กล่าวว่า หากพรรคก้าวไกลเป็นรัฐบาลจะเปิดเผยข้อมูลรัฐ, เปิดเผยงบประมาณทุกบาท, เปิดข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างตามมาตรฐานสากล, มีระบบจับโกงอัจฉริยะ แจ้งเตือนเมื่อมีโครงการส่อทุจริต, จูงใจให้คนที่คิดจะโกงระแวงกันเองจนไม่มีใครกล้าโกงเพราะมีการออกกฎผ่อนผันโทษ ให้คนโกงที่มอบตัว และแฉกันเองก่อน รวมถึงออกกฎหมายคุ้มครองความปลอดภัยเจ้าหน้าที่ที่แฉทุจริตในหน่วยงาน เพิ่มรางวัลให้ประชาชนที่แจ้งเบาะแส
“ถ้าก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล และนายพิธา เป็นนายกฯ เรื่องแรกที่จะทำคือทำให้บริการภาครัฐอย่างน้อย 99% ทำได้ผ่านมือถือ ข้อร้องเรียนไม่เงียบหาย มีฐานข้อมูลโอนสวัสดิการโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องลงทะเบียน” นายพิธา กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า พรรคก้าวไกลเสนอนโยบายตำรวจของประชาชน ปรับโครงสร้างให้ยึดโยงกับประชาชน ในระดับประเทศ มีคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ผ่านการคัดเลือกจากสภาผู้แทนราษฎร ส่วนในระดับจังหวัด มีคณะกรรมการนโยบายความปลอดภัยสาธารณะจังหวัด องค์กรท้องถิ่นและภาคประชาชน สามารถลงมติว่า จะเห็นชอบนายตำรวจที่ ก.ตร. ตั้งขึ้นมา เป็นผู้บังคับการจังหวัดนั้นๆ หรือไม่
นอกจากนี้พรรคก้าวไกล เสนอตั้งคณะกรรมการรับเรื่องร้องเรียนที่เป็นอิสระแยกจากสำนักงานตำรวจเด็ดขาด ทำงานไต่สวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตำรวจ ขึ้นตรงต่อรัฐสภา มีกระบวนการคัดเลือกที่โปร่งใส, เสนอเปิดให้นายตำรวจชั้นประทวน ที่จบการศึกษาปริญญาตรีได้สิทธิเลื่อนยศเป็นชั้นสัญญาบัตรก่อนกลุ่มอื่น เปิดรับคนทุกเพศเข้าเรียนนายร้อยตำรวจ ผลักดันให้มีตำรวจหญิงทุกโรงพัก เพื่อเป็นพื้นที่อุ่นใจสำหรับเหยื่อผู้ถูกคุกคามทางเพศ ยกเลิกการบังคับตำรวจตัดผมเกรียน เปลี่ยนการฝึกสอนตำรวจเหมือนแบบทหาร มาเป็นการอบรมด้านสิทธิมนุษยชน และคุณค่าของการอยู่ร่วมกันในสังคม ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขอให้เลือกพรรคก้าวไกล แล้วตำรวจไทย จะไม่สิ้นหวังเหมือนที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับชุดนโยบาย “ราชการไทยไทยก้าวหน้า” ของพรรคก้าวไกล แบ่งเป็น 3 ด้าน รวม 23 นโยบาย ได้แก่
1.ด้านที่หนึ่ง รัฐโปร่งใส ไร้กลโกง ทุกคนตรวจสอบได้ 1. เปิดข้อมูลรัฐทันที ประชาชนเป็นเจ้าของ 2. ระบบจับโกงอัจฉริยะ 3. โครงการคนโกงวงแตกจูงใจให้คนที่คิดจะโกง ระแวงกันเอง 4. โครงการแฉโกง ปลอดภัย ได้เงิน 5. ตัวแทนจับโกงจากประชาชน 6. ห้ามใช้เงินหลวง โปรโมตตัวเอง และ 7. ป.ป.ช. ยึดโยงประชาชน
2.ด้านที่สอง ข้าราชการทำงานฉับไว คุ้มค่าภาษีประชาชน 1. ทุกบริการภาครัฐ ผ่านมือถือ 2. ร้องเรียนไป ต้องไม่เงียบ อัพเดททุกขั้นตอน 3. สวัสดิการโอนเข้าอัตโนมัติ ไม่ต้องรอ ไม่ต้องลงทะเบียน 4. ยกเลิกใบอนุญาต 50% ยกเลิกทุกกฎหมายที่เป็นอุปสรรค 5. รู้ผลใบอนุญาตใน 15 วัน 6. ยกเครื่องประเมินข้าราชการ ทำงานดี ข้าราชการได้ดี ประชาชนได้ดู 7. ปลดล็อกส่วนกลาง ข้าราชการทีมไทยแลนด์ ทลายกำแพงระหว่างกระทรวง-กรม และ 8. งบประมาณปรับทันใจ จัดทำใหม่จากศูนย์ในทุกๆ ปี (zero-based budgeting)
3.ด้านที่สาม ตำรวจของประชาชน พิทักษ์สันติราษฎร์ 1.ผบ.ตร. ยึดโยงประชาชน ผ่านสภาผู้แทนราษฎร 2.ผู้ตรวจการตำรวจ ประชาชนมีช่องทางร้องเรียนตำรวจได้ 3.จังหวัด-ตำรวจร่วมรับใช้ประชาชน 4.เติบโต-โยกย้ายเป็นธรรม ปราศจากตั๋ว-เส้นสาย 5.ลดภาระพนักงานสอบสวน แบ่งงานให้ตำรวจสายอื่น 6.ตำรวจหญิงทุกสถานี เติบโตเป็น ผบ.ตร.ได้ 7.คืนผมให้ตำรวจไม่บังคับเกรียน และ 8. คุ้มครองสิทธิและศักดิ์ศรีตำรวจทุกระดับ.