สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเดรสเดน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ว่า สำนักงานตำรวจเมืองเดรสเดน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ทางตะวันออกของเยอรมนี ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับ เหตุการณ์คนร้ายควบคุมประชาชนภายในศูนย์การค้า อัลต์มาร์คกาเลอรี เมื่อช่วงบ่ายของวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น จึงส่งกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากไปคลี่คลายสถานการณ์ โดยในระหว่างนั้น มีการปิดตลาดคริสต์มาสที่อยู่ใกล้เคียงกันเป็นการชั่วคราวด้วย เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
#Dresden attacker dies of injuries as police free the hostages#Germany pic.twitter.com/fq0OpNOtwb
— RuptlyNews (@RuptlyNews) December 10, 2022
German authorities said they ended a suspected hostage-taking in Dresden by what appeared to be a psychologically confused man acting alone, after evacuating a shopping mall in the city center https://t.co/Xt5lNkToUd pic.twitter.com/Xh9AUkXkMB
— Reuters (@Reuters) December 10, 2022
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ช่วยเหลือตัวประกัน 2 คนออกมาได้อย่างปลอดภัย และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ผู้ก่อเหตุเป็นชายวัย 40 ปี เสียชีวิตในเวลาต่อมา “จากบาดแผลฉกรรจ์ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติการของตำรวจ”
ขณะที่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งรายงานด้วยว่า คนร้ายก่อเหตุสังหารหญิงวัย 62 ปี ซึ่งเป็นมารดาของตัวเอง ภายในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในเขตโพรห์ลิสของเมืองเดรสเดน ก่อนเดินทางมายังศูนย์การค้าเพื่อก่อเหตุด้วย ด้านเจ้าหน้าที่กล่าวถึงทั้งสองเหตุการณ์เพียงว่า “มีความเชื่อมโยงกัน” และพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อสืบค้นหาแรงสูงใจของผู้ก่อเหตุต่อไป แต่ในเบื้องต้นเชื่อว่า เป็นการลงมือเพียงลำพัง และ “อาจมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพจิต”

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เมืองเดรสเดนเกิดขึ้นภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน หลังสำนักงานตำรวจแห่งชาติของเยอรมนีปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 25 คน ฐานเป็นสมาชิกหรือให้การสนับสนุนแนวร่วมการเคลื่อนไหวทางการเมืองชื่อ “ไรช์สบัวร์เกอร์” หรือ “พลเมืองแห่งจักรวรรดิ” ซึ่งมีจุดยืนขวาจัด ต่อต้านรัฐบาลเยอรมนี มีผู้นำเป็นชายวัย 71 ปี เรียกตัวเองเป็น “เจ้าชายไฮน์ริชที่ 13” ต้องการโค่นล้มโครงสร้างอำนาจรัฐในปัจจุบัน เพื่อรื้อฟื้น “อาณาจักรไรช์”.
เครดิตภาพ : REUTERS