เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ให้การบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ยึดการมีส่วนร่วมและให้ความสำคัญของสังคมพหุวัฒนธรรม โดยขณะนี้ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมศิลปากร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินโครงการปฏิสังขรณ์วัดที่มีอายุมากกว่า 100 ปี จำนวน 138 แห่ง ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ชำรุดทรุดโทรม และวัดที่อยู่ห่างไกล เพื่อให้ชุมชนไทยพุทธมีวัดในพื้นที่เป็นศูนย์รวมจิตใจ สามารถประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาได้ตามปกติ และสร้างพื้นที่กลางทางศาสนา เพื่อส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งในเบื้องต้น ปี 2566 จะดำเนินการปฏิสังขรณ์วัดเก่า 10 แห่ง และวัดที่อยู่ห่างไกล 7 แห่ง

น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกัน รัฐบาลให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์มัสยิดเก่าแก่ รวมถึงได้สร้างพิพิธภัณฑ์มรดกทางวัฒนธรรมอิสลามและศูนย์การเรียนรู้อัลกุรอานในพื้นที่ของโรงเรียนสมานมิตรวิทยา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับคัมภีร์อัลกุรอานโบราณ และมรดกวัฒนธรรมอิสลาม ตลอดจนเป็นสถานที่จัดเก็บและจัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับคัมภีร์อัลกุรอานที่ได้มาตรฐานสากล อีกทั้ง เป็นสื่อกลางในการสร้างสัมพันธ์ที่ดี อันจะนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ซึ่งขณะนี้ มีชาวต่างชาติและนักวิชาการจากสถาบันการศึกษาในต่างประเทศมาเยือนจำนวนมาก โดยคาดจะเปิดให้เข้าชมอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้

“รัฐบาลให้ความสำคัญกับการทำนุบำรุงศาสนาและส่งเสริมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม นอกจากการบูรณปฏิสังขรณ์โบราณสถานและอนุรักษ์โบราณวัตถุทางศาสนาแล้ว รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้ ศอ.บต. สำหรับการพาชาวไทยพุทธไปแสวงบุญที่สังเวชนียสถานในประเทศอินเดียและเนปาล ในช่วงต้นปี 2566 และชาวไทยมุสลิมจะได้ไปร่วมประกอบพิธีฮัจญ์ที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย โดยประชาชนจะต้องเป็นผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมคนดีมีคุณธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และได้รับการคัดสรรจากคณะกรรมการ ซึ่งการพาประชาชนไปแสวงบุญดังกล่าว เพื่อส่งเสริมการทำหน้าที่ของผู้ที่มีบทบาทในการพัฒนาพื้นที่และทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคม และจะได้ต่อยอดการสร้างคนดีสร้างสันติสุข สร้างคุณธรรมในสังคมต่อไป” น.ส.รัชดา กล่าว