ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด – 19 ตามรายงานของ ศบค. รายวัน สัปดาห์นี้ สถิติทุบนิวไฮ พุ่งทะลุ2หมื่น เสียชีวิตสูงสุดแตะ 321 คน   ตัวเลขฉุดไม่อยู่ กดไม่ลง ตัวเลขผู้ป่วยสะสมตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป อีกไม่กี่อึดใจจะแตะ 1 ล้าน จนล่าสุด“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  และ รมว.กลาโหม โพสต์ เฟซบุ๊ก  สื่อสารถึงคนไทยถึงสถานการณ์โควิด-19 ของประเทศไทยในขณะนี้ ชี้หากควบคุมล็อกดาวน์ดีขึ้น จะผ่านจุดสูงสุดยอดติดเชื้อภายในสิ้นเดือนส.ค.นี้ คาดลดลงต่อเนื่องต้น ก.ย. อาจคลายล็อกบางกิจกรรม ย้ำทำทุกหนทางเพื่อผ่านวิกฤติ

“ผมรับรู้ความเจ็บปวดของทุกท่านที่ได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ต้องปิดกิจการ หรือผู้ที่ต้องสูญเสียรายได้จากมาตรการต่างๆ ของรัฐ หรือแม้แต่สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักจากโรคร้ายนี้ ผมเจ็บปวดและเศร้าใจทุกครั้งที่ได้อ่านข่าวผู้เสียชีวิตจากโควิด และเป็นสิ่งเตือนใจผมตลอดเวลาว่าจะต้องทำให้ได้ดีกว่านี้ ในการพยายามหาหนทางทุกๆ ทางที่จะทำให้ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลดลงให้มากที่สุด  วิกฤตครั้งนี้หนักหนาสาหัสอย่างที่โลกไม่เคยพบเคยเจอมาก่อน และผมจะหาทุกหนทางในการช่วยเหลือและแก้สถานการณ์ให้เราผ่านวิกฤตนี้ไปให้ได้ เพื่อไปสู่การฟื้นฟูประเทศและเศรษฐกิจหลังโควิดโดยเร็วที่สุด ไม่ว่าอุปสรรคครั้งนี้จะยากเพียงใดก็ตาม” นายกรัฐมนตรี ระบุ

ชัดเจนนาทีนี้แม้วิกฤติจะหนักแสนสาหัส แต่ “ท่านผู้นำ” ไม่ถอย พร้อมเดินหน้าพาประเทศฝ่าวิกฤติโควิด-19เร่งแก้ปัญหาเต็มสูบ เรียกความเชื่อมั่นกอบกู้ศรัทธา

แม้เราเจอโควิด- 19 สายพันธุ์เดลตาลามหนัก ล็อกดาวน์เข้มแค่ไหน อยู่บ้านก็ไม่สามารถหยุดเชื้อได้  เศรษฐกิจส่อเค้าพังระนาว เพราะตราบใดคำตอบสุดท้ายที่แท้จริงคือ “วัคซีน”   ที่ต้องเร่งฉีดทั่วประเทศ สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ปูพรมฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของจำนวนประชากร 65 ล้านคน ภายในสิ้นปี 2564 ถูกลากเข้ามาเป็นเป็นเกมการเมือง รัฐบาลบริหารงานผิดพลาด แก้โควิดห่วย ทำเศรษฐกิจล้มเหลว  จนต้องมีการารออก “พ.ร.ก.นิรโทษกรรมวัคซีน” ล้างผิดตัวเอง ยิ่งตอกย้ำ  ความผิดพลาดในการบริหารจัดการวัคซีนเหลว บ้อท่า  ไม่มาตามนัด  ล้อเล่นกับชีวิต ความเป็นความตายของคนในชาติ

ขณะที่เวทีในสภาฯ ที่เวทีวุฒิสภาไม่น่ากังวัล พรรคส.ว.250 เสียงพร้อมหนุนพรึ๊บ  แต่เวทีสภาฯคิวร้อนๆรออยู่ โดยเฉพาะศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจล็อคเป้า “บิ๊กตู่” พ่วง 5 รัฐมนตรีขึ้นเขียงไม่ให้เป็นโดดเดี่ยวที่น่ารัก  เพียงแค่ญัตติที่เสนอฟังก็เจ็บจี๊ด สุดรุนแรง พุ่งเป้าท่านผู้นำ “โอหัง – คลั่งอำนาจ – ค้าความตาย”  แต่…สุดท้ายเสียงโหวตยกมือก็ผ่านฉลุย “งูเห่าคาบกล้วย” ว่อนสภา

แต่ศึกนี้ฝ่ายค้านโดยเฉพาะบรรดา “ขุนพลพรรคก้าวไกล” ต้องมีใบเสร็จ  หมัดน็อค ที่สามารถขยายผลมาเวทีนอกสภาให้ได้ เพราะตอนนี้มีสารพัดม็อบรอรับลูก อีกทั้งถนนทุกสายมุ่งหน้าไปที่ ถนนวิภาวดีรังสิต ตรงไปยังบ้านพัก  “บิ๊กตู่” ในค่าย ร.1 รอ.  ยิ่งสภาพม็อบไร้แกนนำ  พร้อมบวก ท้าทายความอดทน “ผู้มีอำนาจในมือ” หวังเกิดเหตุนองเลือด เหมือนประวัติศาสตร์ ในอดีต ก่อนบานปลายเป็นจลาจลกลางเมือง ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัว

ตอนนี้ถือว่ารัฐบาลเข้าสู่ปีที่ 3 เริ่มเป็นช่วงขาลงรัฐบาล  พรรคร่วมรัฐบาลต้องกอดคอกันไปจนจบสมัย เพื่อหาเสบียง กระสุน ไว้สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้า แถมมาเจอพิษโควิดทำอ่วมสะบัดสะบอมรายวัน ดังนั้น  “บิ๊กตู่” ต้องตั้ง ท่องคำว่า “ อดทน” ให้หนัก  หากยังอยากอยู่ให้ครบ 4 ปี.