เมื่อเวลา 10.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่นกรุงบรัสเซลส์) วันที่ 14 ธ.ค. ที่อาคาร Europa กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หารือกับนายเป็ตร์ ฟียาลา (Mr. Petr Fiala) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก ในช่วงการประชุมอาเซียน-อียู สมัยพิเศษ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน โดยสาธารณรัฐเช็กเป็นฝ่ายทาบทามการหารือ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไทยและเช็กมีความสัมพันธ์กันมายาวนาน โดยจะครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างกัน ในปี 2567 นายกรัฐมนตรีหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันกระชับความสัมพันธ์ และพัฒนาความร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกัน พร้อมหวังว่า ไทยและเช็ก จะสามารถจัดการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ (Joint Commission on Economic Cooperation: JEC) ครั้งที่ 3 ได้โดยเร็ว

นายกรัฐมนตรียินดีที่ไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวเช็ก โดยสนับสนุนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาไทยมากขึ้น ยินดีอำนวยความสะดวกดูแลนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ซึ่งผู้นำทั้งสองฝ่ายหวังว่า จะสามารถจัดการประชุมคณะอนุกรรมการด้านการท่องเที่ยวได้ในปีหน้า เพื่อสานต่อความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงหลังสถานการณ์โควิด-19

โอกาสนี้ผู้นำทั้งสองฝ่ายยังยินดีที่มูลค่าการค้าระหว่างกันในปี 2564 สูงถึงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เมื่อเทียบกับปี 2563 โดยไทยหวังที่จะเพิ่มพูนการค้าและการลงทุน พร้อมเชิญชวนนักลงทุนเช็กเข้ามาลงทุนใน EEC ในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูง โดยเฉพาะการลงทุนในด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและอุปกรณ์ทางการแพทย์ นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างยินดีที่ความร่วมมือทางทหารมีพลวัต โดยกระทรวงกลาโหมของทั้งสองฝ่ายมีการประสานงานและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด

นายกรัฐมนตรี ขอบคุณเช็กที่สนับสนุนไทยในกรอบ EU มาโดยตลอด จนนำมาสู่การลงนามความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้าน (Partnership and Cooperation Agreement: PCA) ในการประชุม ASEAN-EU Commemorative Summit ครั้งนี้ นอกจากนี้ ไทยยังยินดีต่อการประกาศยุทธศาสตร์เพื่อความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของ EU และการประกาศยุทธศาสตร์เพื่อความร่วมมือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกของเช็ก โดยไทยพร้อมร่วมมือกับเช็ก และ EU ในการส่งเสริมความร่วมมือภายใต้ยุทธศาสตร์ฯ เพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ภายใต้ค่านิยมและผลประโยชน์ร่วมกัน

ด้านนายกรัฐมนตรีเช็ก กล่าวขอบคุณ โดยเช็กในฐานะเป็นประธานคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป (ระหว่างวันที่ 1 ก.ค.- 31 ธ.ค. 2565 ก็พร้อมร่วมมือกับไทย เพื่อสร้างความพร้อมให้ภูมิภาคอย่างยั่งยืน.