เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 19 ส.ค. สำหรับการพิจารณางบประมาณวาระ 2 เข้าสู่การพิจารณามาตรา 15 งบประมาณกระทรวงคมนาคม วงเงิน 57,154 ล้านบาท โดยนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายขอปรับลดงบ 4.18 ล้านบาท ของกระทรวงคมนาคมในโครงการซื้อโดรนถ่ายภาพทางอากาศ ที่มีราคาแพงเกินจริง ตั้งงบมา 1.1 แสนบาทต่อตัว ทั้งที่ราคาในตลาด รุ่นเดียวกับที่กระทรวงคมนาคมจะซื้อ ตัวท็อปอยู่ที่ 67,400 บาทต่อตัว ดูแล้วแพงเกินจริง การจัดซื้อโดรนดังกล่าวยังไม่มีความเป็นธรรมบางจังหวัดได้ บางจังหวัดไม่ได้ ใช้เกณฑ์อะไร และไม่รู้ว่า ซื้อมาแล้วใช้กันเป็นหรือยัง ในวิกฤติขณะนี้ไม่ควรซื้อโดรน ขอให้ลดการผลาญสงสารประชาชนบ้าง

จากนั้นการอภิปรายมาตรา 16 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานในกำกับ 3,821,301,500 บาท นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่า ขอตัดลบงบของโครงการศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหาข่าวปลอม โดยขอให้ตัดทิ้งทั้งโครงการ จำนวนเงิน 79,997,000 บาท เพราะทางศูนย์ฯไม่สามารถดำเนินการตามวิสัยทัศน์และมาตรฐานที่เคยให้ไว้ โดยเฉพาะการทำตาม IFCN Code ที่ได้รับการยอมรับจากระดับนานาชาติ ไม่มีความเอนเอียงในการตรวจสอบข่าว และมีภารกิจในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้นไม่มีส่วนกับจับกุมปราบปรามการดำเนินคดีแต่อย่างใด แต่ทางศูนย์กลับเลือกตรวจสอบข่าวปลอมที่เป็นผลลบกับรัฐบาลเท่านั้น ไม่มีการตรวจสอบข่าวปลอมที่เป็นผลบวกกับรัฐบาลแต่อย่างใด ซึ่งตอกย้ำว่าศูนย์ดังกล่าว ตั้งมาเพื่อปกป้องรัฐบาลและฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น และการทำงานของศูนย์ฯ ยังไม่สามารถแยกออกได้จากการที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และปอท.มีการปราบปรามดำเนินคดี

 ล่าสุด เดือน พ.ค.ก็มีการตั้งอนุกรรมการขึ้นมาดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ที่เน้นมาตรการในการปราบปรามดำเนินคดีอย่างชัดเจน เรามีกระทรวงนี้ไว้สำหรับสนับสนุนดิจิทัลหรือปิดปากประชาชนกันแน่ การไล่ฟ้องคดีกับประชาชนไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ การนำหน่วยงานไปขึ้นตรงกับฝ่ายการเมืองดำเนินคดีกับประชาชนไม่มีทางสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้ ถ้าศูนย์ฯเผยแพร่ข่าวปลอมเองใครจะดำเนินคดี และตราบใดหน่วยงานที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ภายใต้อำนาจรัฐ ใช้กฎหมายปิดปากประชาชน ก็ไม่ควรได้งบประมาณแม้แต่บาทเดียว

ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะกมธ.งบประมาณ ปี 2565 อภิปรายว่า กระทรวงดีอีเอสได้ขอรับงบประมาณ 3,821,301,500 บาท ตนขอปรับลดลง 10% โดยเฉพาะงบกรมอุตุนิยมวิทยา เพราะบริหารงานล้มเหลวทำให้เกิดความเสียหาย เป็นเรื่องที่จะต้องฟ้องประชาชน เพราะบริหารงบประมาณไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งขอให้นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดีอีเอส เตรียมตัวไว้ให้ดีในการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่กำลังจะเกิดขึ้น เพราะนี่เป็นแค่หนังตัวอย่าง

เวลา 19.27 น. นายวิเชียร ชวลิต คณะกรรมาธิการ (กมธ.) เสียงข้างมาก ชี้แจงว่าได้มีการซักถาม และพิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว รวมถึงมีการปรับลดแล้ว จากนั้น ที่ประชุมจึงได้ลงมติผ่านมาตรา 16 งบประมาณของกระทรวงดิจิทัล เศรษฐกิจ และสังคม

กระทั่งเวลา 20.18 น. นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมได้สั่งปิดการประชุม พร้อมกับนัดประชุมต่อเป็นวันที่สามในวันที่ 20 ส.ค. เวลา 09.30 น. โดยจะเริ่มพิจารณา มาตรา 18 งบประมาณกระทรวงพลังงาน จำนวน 1,873,129,300 บาท

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในวันนี้สภาผู้แทนราษฎรได้ใช้เวลาการพิจารณานานเกือบ 11 ชั่วโมง โดยตลอดสองวันใช้เวลาไปทั้งสิ้น 22 ชั่วโมง.