สำนักข่าวซินหัวรายงานจากนครลอสแอนเจลิส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ว่า วารสารการแพทย์ เดอะ นิว อิงแลนด์ เจอร์นัล ออฟ เมดิซีน เผยแพร่ผลการศึกษา ซึ่งระบุการทดลองแบบสุ่มและแบบควบคุมด้วยยาหลอก เพื่อประเมินยุทธศาสตร์การฉีดวัคซีนป้องกัน โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลาในผู้ใหญ่และเด็ก
การศึกษาข้างต้นเปิดรับอาสาสมัครจากหลายพื้นที่ ในกินี ไลบีเรีย เซียร์ราลีโอน และมาลี เข้าร่วมการทดลองฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา จำนวน 3 ตัว เพื่อหายุทธศาสตร์การฉีดวัคซีน ซึ่งมีความเหมาะสมต่อการยับยั้งโรคระบาดนี้ โดยผลการทดลองพบวัคซีนทั้งหมดมีความปลอดภัย กับกลุ่มตัวอย่างในทั้งสองช่วงวัย
ผลการวิจัยระบุว่า อาสาสมัครเริ่มผลิตแอนติบอดีตอบสนองวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา หลังจากฉีดครั้งแรกครบ 14 วัน และยังคงสามารถตรวจพบแอนติบอดี ณ ระดับที่แตกต่างกันในเวลาต่อมา
คณะนักวิจัยสรุปว่า ผลการศึกษานี้น่าสนใจเพราะวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสอีโบลามักถูกฉีดช่วงเกิดการระบาด ทำให้ข้อมูลเกี่ยวกับระยะเวลาการผลิตแอนติบอดีตอบสนองต่อวัคซีน ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการปกป้องประชากรกลุ่มเสี่ยง.
ข้อมูล-ภาพ : XINHUA
