กรณีเจ้าหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บุกเข้ามาในห้องประชุมกะทันหัน พร้อมได้เชิญตัวนายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช เข้าไปในห้องเพื่อพูดคุย ท่ามกลางความงุนงงของผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ ที่อยู่ในห้องประชุม และระหว่างรออวยพรปีใหม่เป็นอย่างมาก ซึ่งจากการตรวจค้นห้องทำงานของนายรัชฎา พบเงินสดประมาณ 5 ล้านบาท ตำรวจจึงทำการยึดไว้ตรวจสอบ ต่อมา นายรัชฎา ได้รับการประกันตัว ด้วยวงเงิน 4 แสนบาท นั้น

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ว่า ตนได้นำหลักฐานการกระทำผิดของนายรัชฎา เข้าร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยเป็นหลักฐานที่แสดงถึงการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อแลกกับการไม่ถูกโยกย้ายตำแหน่ง โดยนายรัชฎา ได้เรียกเก็บเงินจากหัวหน้าหน่วยงานภาคสนามทั่วประเทศ คิดตามอัตราส่วนจากหน่วยงานที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ เช่น อุทยานแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเรียกเก็บ 18.5 เปอร์เซ็นต์จากหมวดงบดำเนินงานและค่าใช้สอย หน่วยป้องกันไฟป่าเรียกเก็บ 30 เปอร์เซ็นต์จากหมวดงบดำเนินงานและค่าใช้สอย

นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า หากหัวหน้าหน่วยงานต่างๆ ที่ถูกเรียกเก็บไม่สามารถนำเงินมาจ่ายให้แก่อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ก็จะถูกโยกย้ายออกจากตำแหน่งเดิมและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งในพื้นที่ที่ห่างไกลจากภูมิลำเนา จึงทำให้มีการวิ่งเต้นกับอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อไม่ให้ตนเองถูกโยกย้ายรายละประมาณ 200,000-300,000 บาท นอกจากนี้ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ยังได้เรียกเก็บเงินจากผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นรายเดือนอีกด้วย หาก บก.ปปป .เรียกเข้าไปให้ข้อมูลเพิ่มเติมก็พร้อม.