เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ส.ค. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กลุ่มคาร์ม็อบสัญจร นำโดย นายทรงพล สนธิรักษ์ หรือ “ยาใจ” โฆษกกลุ่มทะลุฟ้า จัดกิจกรรม คาร์ม็อบสัญจรยื่นหนังสือทะลุโลก เปิดโปงทรราช ให้ต่างชาติได้รับรู้ถึงการบริหารงานล้มเหลวของรัฐบาลไทย ตั้งใจเสนอข้อเท็จจริงผ่านการยื่นหนังสือไปตามสถานเอกอัครราชทูตต่างๆ ทั้งหมด 3 สถานทูตได้แก่ สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ สถานทูตสหรัฐอเมริกา และสถานทูตจีน

เวลา 11.45 น. ขบวนเคลื่อนถึงสถานทูตสวิตเซอร์แลนด์ จะเป็นการยื่นเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการสลายการชุมนุมที่เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ การกระทำดังกล่าวถือว่าเป็นการขัดต่อสนธิสัญญาเจนีวา ที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ลงนามร่วมกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์

เวลา 12.30 น. ทางกลุ่มมวลชนก็ได้เคลื่อนขบวนต่อไปยังสถานทูตสหรัฐ เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีการจัดสรรวัคซีนที่ได้รับมอบจากรัฐบาลอเมริกา แต่รัฐบาลไทยกลับมีการนำวัคซีนไปแจกจ่ายแก่กำลังพลในกองทัพแทนที่จะเป็นบุคคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าเพื่อรับมือกับโรคระบาดโควิด-19

เวลา 13.30 น. มวลชนทะลุฟ้ายื่นหนังสือต่อสถานทูตจีน เพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับกรณีการที่รัฐบาลไทยจัดหาวัคซีนซิโนแวคจากบริษัทซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนจีน จำนวนทั้งสิ้น 24.55 ล้านโด๊ส แต่คุณภาพไม่สามารถรับมือกับการเเพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าได้ จากนั้นได้แยกย้าย

ต่อมาเวลา 16.30 น. วันเดียวกัน มีกลุ่มวัยรุ่นมีกลุ่มวัยรุ่นขับขี่รถ จยย. เข้ามาที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ก่อนขว้างปาระเบิดปิงปองและประทัดยักษ์เข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนที่อยู่บนทางด่วน บริเวณทางลงแยกดินแดง ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มวัยรุ่น ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นขว้างแก๊สน้ำตากลับไปใส่เจ้าหน้าที่เป็นการตอบโต้ ส่วนวัยรุ่นอีกกลุ่มได้ขี่รถ จยย.เข้าไปประชิดแนวตู้คอนเทเนอร์ที่ตั้งขวางถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งมุ่งหน้าไปกรมทหารราบที่ 1 ที่ตั้งบ้านพักของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมปาระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์ อยู่ตลอดเวลา

ต่อมาเวลา 17.10 น. กลุ่มวัยรุ่นได้ล่าถอยไปบริเวณแยกราชปรารภ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงกำลังเข้ากระชับพื้นที่ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นได้ขับขี่รถ จยย.ลงอุโมงค์ดินแดง มุ่งหน้าแยกประชาสงเคราะห์ จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนเดินเท้าเข้ากระชับพื้นที่ โดยลงมาจากสะพานข้ามแยกราชปรารภ เพื่อผลักดันมวลชนให้ออกนอกบริเวณ ก่อนจะเข้าควบคุมพื้นที่สามเหลี่ยมดินแเดง

ช่วงเวลา 17.30 น. เป็นต้นมา เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนเข้าเคลียร์พื้นที่สามเหลี่ยมดินแดงได้สำเร็จ พร้อมตรึงกำลังรักษาพื้นที่ป้องกันกลุ่มมวลชนย้อนกลับมาใหม่

จากนั้นเวลา 18.00 น. เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนกับกลุ่มวัยรุ่นอีกครั้ง บริเวณสะพานลอยหน้าสำนักงาน ป.ป.ส.ดินแดง หลังตำรวจควบคุมฝูงชนเข้ายึดพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมดินแดงเอาไว้ได้แล้ว แต่วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวยังไม่ยอมแยกย้ายกลับบ้าน ยังคงขว้างปาประทัดยักษ์ ระเบิดปิงปอง และระเบิดเพลิง ใส่ฝั่งเจ้าหน้าที่ จนเจ้าหน้าที่ ต้องตัดสินใจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเพื่อเป็นการตอบโต้ ยับยั้งพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นดังกลาวอย่างต่อเนื่องเป็นระยะ

เวลา 19.15 น. ตำรวจควบคุมฝูงชน ได้เข้าคุมพื้นที่แยกดินแดง ด้านใกล้กับสำนัก ป.ป.ส. หลังมีกลุ่มวัยรุ่นปาประทัดยักษ์ และระเบิดเพลิงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันที่สามเหลี่ยมดินแดงด้านแฟลตดินแดงมุ่งหน้าแยกประชาสงค์เคราะห์ เจ้าหน้าที่ยังมีการยิงแก๊สน้ำตา และกระสุนยางเพื่อสลายการชุมนุมของกลุ่มวัยรุ่นอีกส่วนอย่างต่อเนื่อง

เวลา 20.00 น. กำลังตำรวจควบคุมฝูงชนได้ถอยออกจากสามเหลี่ยมดินแดง ขณะที่กลุ่มวัยรุ่นขยับเข้ามาในพื้นที่แทน พร้อมปาระเบิดปิงปอง ประทัดยักษ์

เวลา 20.20 น. เจ้าหน้าที่ระดมยิงแก๊สน้ำตาจำนวนหลายลูก เพื่อสลายการชุมนุมบริเวณดังกล่าว ทำให้ผู้สื่อข่าวที่ปักหลักต้องถอยออกจากพื้นที่เช่นเดียวกัน ขณะเดียวกันกลุ่มวัยรุ่นยังตอบโต้ด้วยประทัดยักษ์ เป็นระยะๆ ก่อนถอยกลับไปยังแยกประชาสงเคราะห์ ส่วนกำลังตำรวจควบคุมฝูงชน ยังตรึงกำลังอยู่บนถนนวิภาวดีรังสิตฝั่งขาออกด้านหน้าตู้คอนเทเนอร์ โดยยังไม่มีการเคลื่อนกำลังแต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 20.30 น. ตำรวจควบคุมฝูงชน เคลื่อนกำลังออกจากด้านหลังตู้คอนเทเนอร์ ก่อนเข้าควบคุมพื้นที่สามเหลี่ยมดินแดง โดยมีการใช้กระสุนยาง และแก๊สน้ำตา ผลักดันมวลชนไปด้านแยกประชาสงเคราะห์

เวลา 21.05 น. สถานการณ์สามเหลี่ยมดินแดง เริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ