เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. เวลา 13.00 น. ที่รัฐสภา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงถึงกรณีนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ กกต. ไต่สวน วินิจฉัยและพิจารณาในเบื้องต้นกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรืออุ๊งอิ๊ง หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกง อาจะเข้าข่ายกระทำผิดมาตรา 44 มาตรา 45, 28, 29 อันมีโทษถึงขั้นยุบพรรคตามมาตรา 92 (3) (4) ว่า สิ่งที่นายสนธิญาณทำนั้นเป็นการให้ข้อมูลข่าวสารบิดเบือนความจริง เพราะความจริงเรารู้ว่า น.ส.แพทองธาร เป็นบุตรสาวของนายทักษิณ การที่เดินทางไปตามภารกิจส่วนตัวจึงทำได้

โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่สิ่งที่นายสนธิญาณทำนั้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดของประชาชนต่อพรรคเพื่อไทย จึงขอให้ กกต. สืบสวนสอบสวนนายสนธิญา ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างให้คนที่คิดทำการให้พรรคเพื่อไทยเสียหายในกรณีต่อๆ ไป ทั้งนี้ ภาษีของประชาชนทุกบาทต้องใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ไม่ใช่เพื่อกลั่นแกล้งทางการเมือง สิ่งที่ทำนี้เป็นการเมืองไม่สร้างสรรค์ หากนายสนธิญาณอยากเป็นนักการเมือง ก็ควรสมัครเข้าพรรคการเมืองให้ถูกต้อง คิดค้นนโยบายดีๆ

“จากที่พรรคเพื่อไทยประกาศนโยบาย 10 ด้าน และมีเป้าหมายแลนด์สไลด์เพื่อให้ได้ฉันทานุมัติในการจัดตั้งรัฐบาลหลังการเลือกตั้งครั้งต่อไป มีผลโพลหลายสำนักได้สำรวจความเห็นและเห็นว่าพรรคเพื่อไทย และตัวแทนเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมาเป็นลำดับที่ 1 ดิฉันจึงตั้งข้อสังเกตว่า ฝ่ายผู้มีอำนาจใช้นักร้องมาร้องเรียนพรรคเพื่อไทย เพราะกลัวเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งครั้งหน้าใช่หรือไม่ จึงใช้วิธีไม่สะอาด ไม่สง่างามทางการเมือง ขอให้คนมีจุดประสงค์ไม่ดี หยุดการกระทำนั้นเสีย ประชาชนให้อภัย แล้วมาเดินหน้าสร้างนโยบายดีๆ เพื่อคนไทย” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

ทางด้าน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าตอนนี้นักร้องทั้งหลายเริ่มร้อง แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีการร้องแล้วรับบิลหรือไม่ เพราะร้องเรียนโดยไม่มีประโยชน์กับประชาชน โดยเฉพาะระยะหลังๆ ตนสังเกตว่า คนที่มีความใกล้ชิดผู้มีอำนาจมีการโหวกเหวกโวยวาย ร้องอย่างไม่มีเหตุผล แต่คนเหล่านี้กลับอยู่สุขสบาย จึงอยากให้ตรวจสอบคนที่โวยวายว่ามีผลประโยชน์หรือไม่ ในส่วนของเพื่อไทยก็ต้องปกป้องพรรค ปกป้องสมาชิก เราไม่ได้ต้องการหาเรื่องกับใคร จริงๆ พ่อลูกพบกันเป็นเรื่องธรรมดา ทุกคนมีพ่อ แม่ ไม่ได้เกิดจากกอไม้ไผ่ ทุกคนมีครอบครัว มีคนที่รัก เป็นปกติ อย่าหยุมหยิมทุกเรื่อง ที่จริงเรารำคาญ แต่ต้องพูด

ขณะที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากสังเกตระยะหลังๆ นักร้องต่างๆ ที่ไปร้องต่อหน่วยงานรัฐ จะใช้คำว่าให้ช่วยตรวจสอบว่าเข้าข่ายกระทำความผิดหรือไม่ เพราะเขารู้ว่าสิ่งที่เขาร้องนั้นไม่มีมูล ไม่มีเหตุ ไม่ใช่การร้องว่ามีการกระทำผิดโดยตรง และจากการสังเกตตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ในการปรับ ครม. การแต่งตั้งบุคลากรต่างๆ ล้วนให้รางวัลกับคนที่มักจะกระทำการลักษณะนี้มาตลอด เสียงดัง อาละวาด โวยวาย ทะเลาะเบาะแว้งกับพรรคฝ่ายค้าน ทั้งที่เราพูดเรื่องการบริหารงานที่ผิดพลาดของรัฐบาล

แต่สุดท้ายเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ให้รางวัลคนเหล่านี้ จึงทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ เพราะเขาทราบดีว่า ตอนนี้เข้าสู่โหมด 180 วัน ก่อนการเลือกตั้ง สิ่งที่นายสนธิญาเป็นการกระทำซึ่งขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 101 ระบุว่า หากผู้ใดร้องเท็จโดยที่รู้อยู่แล้วว่าไม่มีมูล ก็ต้องระวางโทษทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้น เพื่อไทยจึงร้องต่อ กกต. และจะรอฟังผลว่า จะมีการตรวจสอบการกระทำผิดตามมาตรานี้หรือไม่ เราไม่อยากเห็นการเมืองไม่สร้างสรรค์อีกต่อไป.