สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเคียฟ ประเทศยูเครน เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. ว่า กองทัพยูเครนรายงาน ปฏิบัติการโจมตีครั้งใหญ่ของกองทัพรัสเซีย ซึ่งเกิดขึ้นตลอดวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เป็นการยิงขีปนาวุธโจมตีเมืองใหญ่หลายแห่ง โดยเฉพาะในกรุงเคียฟ ที่ต้องมีการเปิดไซเรนเตือนภัยเป็นระยะยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงของยูเครน อ้างการสกัดขีปนาวุธจากรัสเซียได้อย่างน้อย 54 จาก 69 ลูก
นอกจากกรุงเคียฟ เมืองคาร์คิฟซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับสอง ตั้งอยู่ทางตะวันออกของประเทศ และเมืองลวีฟ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 6 และตั้งอยู่ทางตะวันตก เป็นเป้าหมายหลักของการโจมตีโดยกองทัพรัสเซียตลอดวันดังกล่าวเช่นกัน ส่งผลให้เกิดภาวะกระแสไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง รายงานของรัฐบาลเคียฟระบุว่า อาคารอย่างน้อย 18 แห่ง พังทลาย และโครงสร้างพื้นฐานอย่างน้อย 10 แห่ง ได้รับความเสียหายอย่างหนัก
สำหรับสถานการณ์สู้รบในภาพรวมระยะนี้ ยังคงหนักหน่วงที่สุดในภูมิภาคดอนบาส ซึ่งเป็นพื้นที่ขัดแย้งยืดเยื้อในภาคตะวันออกของยูเครน โดยเฉพาะที่เมืองบัคมุต ซึ่งมีประชากรราว 70,000-80,000 คน และถือเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดของภูมิภาคแห่งนี้ และประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี เดินทางไปเยี่ยมเยียนทหารในพื้นที่ เมื่อช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาส
Footage from the front-line #Bakhmut
— NEXTA (@nexta_tv) December 29, 2022
Video: Radio Liberty pic.twitter.com/uWIdaAU6xK
ด้านกระทรวงกลาโหมของรัสเซีย ยังไม่มีความเห็นอย่างเป็นทางการ ต่อปฏิบัติการโจมตีทางทหารครั้งล่าสุด ซึ่งเกิดขึ้นเพียงวันเดียว หลังนายเซอร์เก ลาฟรอฟ รมว.การต่างประเทศรัสเซีย กล่าวว่า การที่ยูเครนคาดหวังการให้รัฐบาลมอสโกถอนทหารออกจากภูมิภาคดอนบาส หรือพื้นที่ขัดแย้งทางตะวันออก และภูมิภาคไครเมีย โดยอาศัยความช่วยเหลือจากกลุ่มประเทศตะวันตกนั้น “เป็นเพียงภาพลวงตา”.
เครดิตภาพ : REUTERS