เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้อำนวยการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคฯ เปิดเผยว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์มีความพร้อมในทุกด้านแล้วกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในปี 2566 ส่วนอีก 10 เปอร์เซ็นต์ ที่ต้องดำเนินการต่อเนื่อง คือการเตรียมผู้สมัคร ส.ส. ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งหลายพื้นที่มีบุคคลที่มีคุณภาพ เสนอตัวเข้ามาหลายราย และในพื้นที่ที่พรรคต้องเตรียมผู้สมัครใหม่ลงแทน ส.ส. ปัจจุบัน ที่มีแนวโน้มว่าจะไปอยู่พรรคอื่น นอกจากการเตรียมผู้สมัคร ส.ส. แล้ว เรื่องนโยบายที่ใช้ในการหาเสียงเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งการจัดทำนโยบายของพรรคนั้น ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในทุกๆ ด้าน ทั้งเรื่องความเป็นไปได้ในการปฏิบัติ กรอบงบประมาณที่ต้องใช้ภายใต้นโยบายที่จัดทำ ระยะเวลาที่ต้องปฏิบัติ โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดต่อประชาชนและประเทศ ทั้งด้านการพัฒนาประเทศ และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ต้องดีขึ้น ซึ่งขณะนี้ หลักคิดเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งจะเป็นทั้งแผนแม่บทหรือมาสเตอร์แพลนของพรรคฯ ในการวางอนาคตของประเทศชาติและประชาชน ที่จะใช้เป็นนโยบายในการหาเสียงครั้งนี้คือ “สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ”

นายนิพนธ์ กล่าวอีกว่า โดยมีแนวทางที่สำคัญของทั้ง 3 ส. ดังนี้ 1. สร้างเงิน โดยการแยะเป็นสองส่วนใหญ่ๆคือ สร้างเงินให้ประเทศ และสร้างเงินให้ประชาชน 2. การสร้างคน ที่พรรคจะสนับสนุนและส่งเสริมดูแลคนตั้งแต่ในครรภ์มารดา จนส่งสู่เชิงตะกอน ทั้งสร้างสวัสดิการเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่มั่นคงขึ้น เพราะพรรคเชื่อว่าเมื่อเราสร้างคนให้มีความความรู้และความมั่นคงในชีวิต จะแปรเปลี่ยนพลังของประชาชนให้เป็นพลังในการสร้างประเทศชาติได้อย่างมั่นคง และ 3.สร้างชาติ ด้วยระบบประชาธิปไตย ที่สุจริต ควบคู่ไปกับการกระจายอำนาจมุ่งสู่การสร้างเมืองมหานคร พร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม เพื่อเชื่อมประเทศไทยกับโลก ทั้งหมดนี้มีความคืบหน้าจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว ซึ่งนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคฯ และนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ จะแถลงเปิดนโยบายพรรคฯ อย่างเป็นทางการในช่วงเดือน ม.ค. 2566 โดยในขณะนี้ พรรคได้ดำเนินการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ยุทธศาสตร์ 3 ส. ในทุกภาคแล้ว