เมื่อวันนี้ 21 ส.ค. ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) กลุ่มทะลุฟ้าได้มีการนัดรวมตัวกันจัดกิจกรรมทางการเมืองเพื่อคัดค้านการจับกุมบรรดาแกนนำมวลชนที่เห็นต่างกับรัฐบาลอย่างไม่ชอบธรรม นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม “ยืนหยุดขัง” โดยการยืนนิ่ง 112 นาที รวมถึงขึ้นป้ายผ้าข้อความภาษาอังกฤษ ไว้บริเวณรั้วด้านหน้า UN ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเรียกร้องให้นานาชาติได้รับรู้และเข้าใจว่ากลุ่มแกนนำเป็นนักสู้ ไม่ใช่นักโทษ โดยมีบรรดาแกนนำสลับผลัดเปลี่ยนออกมาพูดปราศรัยเกี่ยกับกระบวนการยุติธรรมไทย และข้อความเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก

โดย นายทรงพล สนธิรักษ์ หรือยาใจ โฆษกกลุ่มทะลุฟ้า กล่าวว่า ทางกลุ่มได้ยื่นหนังสือไปแล้วเมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยวันนี้ได้เดินทางมาจัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ เพื่อให้นานาชาติได้รับรู้ถึงการใช้อำนาจโดยมิชอบของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องการจับกุมคุมขังแกนนำ และผู้เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองในช่วงที่ผ่านมา จึงขอเรียกร้องให้เข้ามาร่วมตรวจสอบและขอให้ปล่อยผู้ถูกคุมขังทุกคน เนื่องจากเห็นว่าเป็นการปิดกั้นสิทธิและเสรีภาพการแสดงออกในการชุมนุม
นายทรงพล กล่าวต่อว่า การที่แกนนำอย่างนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นายพรหมศร วีระธรรมจารี หรือฟ้า และนายสิริชัย นาถึง หรือนิว ถูกจับกุมคุมขัง และติดโควิดในเรือนจำ เป็นสิ่งที่สะท้อนถึงความเลวร้ายในการบริหารจัดการโควิดของรัฐบาล ที่ไม่สามารถจัดการปัญหาได้ รวมถึงกรณีที่มีผู้คนเจ็บป่วยและล้มตายเป็นจำนวนมาก จากสถานการณ์โควิดไทย
“ส่วนกรณีการชุมนุมของกลุ่มมวลชนอิสระ ที่บริเวณแยกดินแดง ทางกลุ่มทะลุฟ้ายังยืนยันจุดยืนเดิม คือการชุมนุมอย่างสงบและสันติ แต่ถ้ามวลชนบางส่วนที่อยู่บริเวณดินแดง เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ ก็เป็นการตั้งข้อสังเกตว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ใช้ความรุนแรง และไม่ใช้แก๊สน้ำตา ความรุนแรงก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะเป็นสิทธิเสรีภาพของการออกมาชุมนุม ของพลเมือง ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน” นายทรงพล กล่าว