เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา  ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2565 ในวาระ2 และ3 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท เป็นวันที่สี่  ที่มีนายศุภชัย  โพธิ์สุ  รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม

ซึ่งการอภิปรายในช่วงหัวค่ำ เป็นการพิจารณามาตรา 29 งบประมาณรัฐวิสาหกิจ วงเงิน 61, 944,404,400 บาท และมาตรา30 งบประมาณรัฐสภา วงเงิน3,673,549,900บาท โดยการพิจารณาค่อนข้างจะยืดเยื้อในแต่ละมาตรา มีแต่ส.ส.ฝ่ายค้านติดใจขออภิปรายกันอย่างต่อเนื่อง ไม่ค่อยมีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลขอใช้สิทธิอภิปราย แต่ละมาตรา ใช้เวลาอย่างต่ำมาตราละ 30นาที  ทำให้การพิจารณาไม่ลื่นไหล ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ผ่านไปร่วม 10 ชั่วโมง แต่เพิ่งพิจารณาไปได้แค่ 6มาตรา ขณะที่ภายในห้องประชุมมีส.ส.อยู่ในห้องประชุมบางตา บรรยากาศการอภิปรายเป็นไปอย่างจืดชืด

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายขอปรับลดงบประมาณรัฐสภาลง 20 เปอร์เซนต์เพราะสภาฯมีค่าอาหาร เครื่องดื่มรั่วไหล ปล่อยให้บุคคลภายนอกคือ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.วิสามัญร่างพ.ร.บ.งบ ประมาณรายจ่ายประจำปี2565 ที่ไม่ใช่ส.ส.เข้ามากินอาหารในห้องรับรองส.ส.ที่อนุญาตให้เฉพาะส.ส.เข้ามารับประทานอาหารได้เท่านั้น อยากถามนายเรืองไกรรู้กฎหมาย แต่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี เข้ามากินข้าวหลวงผิดระเบียบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในระหว่างที่นายยุทธพงศ์อภิปรายอยู่นั้น นายเรืองไกรก็ตอบโต้ด้วยการนำกระดาษมาติดที่หน้าคอมพิวเตอร์ตัวเองข้อความว่า “นายกฯตู่ อยู่ยาว” แล้วโชว์ให้ที่ประชุมดู ทำให้ส.ส.ฝ่ายค้านที่เห็นข้อความดังกล่าวไม่พอใจประท้วง จนนายศุภชัย  ประธานการประชุม เตือนให้นายเรืองไกรเก็บป้ายดังกล่าว พร้อมเตือนนายยุทธพงศ์ให้อภิปรายเข้าประเด็น เพราะสิ่งที่พูดมาไม่เกี่ยวกับการแปรญัตติวาระ2 จากนั้นนายเรืองไกรชี้แจงว่า ถ้าคิดว่าตนขโมยข้าวหลวงกิน ให้แจ้งความได้เลยข้อหาลักทรัพย์