จากกรณีเหตุสลดเด็กชายวัย 9 ขวบ 2 คน ได้ลงไปเล่นน้ำในคูน้ำลึกใกล้กับ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ 80 พรรษา (สวนใหม่) อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ภายหลังทีมกู้ภัยชุดประดาน้ำผนึกกำลังกันค้นหากระทั่งพบร่างของเด็กทั้งสอง เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ยังบ้านพักของ น้องเอ (นามสมมุติ) หนึ่งในผู้เสียชีวิต พื้นที่ ต.ท่าสว่าง อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งทางผู้ปกครองและญาติพี่น้อง ได้ร่วมกันจัดงานศพให้แก่น้อง โดยทางแม่ของน้องเอ ได้ทำกับข้าวที่ลูกชายชื่นชอบและบอกว่าอยากกินก่อนเสียชีวิต ประกอบไปด้วย ข้าว ลูกชิ้น และไข่ต้ม พร้อมตั้งสำรับไว้ที่หน้าโลงศพของน้อง นอกจากนี้ยังมีชุดเสื้อผ้าตัวเกงและของเล่นวางไว้ใกล้ ๆ อีกด้วย

ขณะที่ พ่อของน้องเอ เล่าให้ฟังว่า น้องเอ เป็นบุตรชายคนที่ 2 ตนกับภรรยา มีอาชีพขายอาหารและน้ำดื่มให้กับประชาชนที่มาออกกำลังกายในสวน ช่วงเกิดเหตุเพื่อนของลูกชายมาชวนลูกไปเล่นด้วยกัน ซึ่งเป็นเรื่องปกติไม่ได้คิดอะไร เพราะทั้งสองสนิทกันและไปเล่นด้วยกันเป็นประจำ จนกระทั่งตกค่ำมืดลูกชายยังไม่ยอมกลับมาที่ร้าน จึงได้ออกไปตามหาพร้อมกับแจ้งตำรวจประสานเจ้าหน้าที่ออกค้นหา ภายหลังพบว่ามีรอยเท้าของเด็กบริเวณริมคูน้ำ พร้อมรองเท้า 2 คู่ ทำให้เชื่อว่าทั้งสองน่าจะลงไปเล่นแต่เพราะระดับน้ำที่ลึกมาก ทำให้พลัดจมเสียชีวิต

ทั้งนี้ ครอบครัวจะฝังร่างน้องในวันจันทร์ที่ 9 มกราคม 2566 นี้ และเมื่อเสร็จงานของลูกชายแล้ว จะขอเข้าพบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ เพื่อเข้าพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตนไม่ได้ต้องการค่าชดเชยหรือเงินทองอะไร แต่อยากให้ทาง อบจ. สุรินทร์เร่งแก้ไขปัญหาระบบการป้องกันอุบัติเหตุ แสงไฟส่องสว่าง เพราะพื้นที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่สาธารณะ ควรจะมีความปลอดภัยมากกว่านี้

“….อยากให้ลูกชายและเพื่อนของของเขา เป็นเคสสุดท้ายที่เกิดขึ้น เรื่องค้าขายในพื้นที่เดิม ยังไม่อยากกลับไปขายของ แม้จะขายมาเกือบ 10 ปีแล้วก็ตาม พ่อกับแม่ยังทำใจไม่ได้จริง ๆ…” พ่อของน้องเอ กล่าวทั้งน้ำตา