สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ว่า นายเยฟกินี พริโกซิน มหาเศรษฐนีนักธุรกิจชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้บริหารของ “วากเนอร์ กรุ๊ป” องค์กรนักรบรับจ้างชื่อกระฉ่อนระดับโลก กล่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า สมาชิกของวากเนอร์ กำลังให้ความสนับสนุนแก่กองทัพรัสเซีย ในสมรภูมิเขตบัคมุต ซึ่งมีประชากรราว 70,000-80,000 คน และถือเป็นหนึ่งในเขตใหญ่ที่สุดของภูมิภาคดอนบาส ที่อยู่ทางตะวันออกของยูเครน


พริโกซิน กล่าวต่อไปว่า โดยส่วนตัวเขาคาดหวังให้ทั้งทหารรัสเซียและกองกำลังวากเนอร์ ร่วมกันยึดเหมืองในแขวงโซเลดาร์ และแขวงบัคมุต ให้ได้ เนื่องจากเหมืองทั้งสองแห่งคือ “โครงข่ายใต้ดิน” หรือ “เมืองใต้ดิน” ซึ่งสามารถเป็นที่พักพิงชั่วคราวให้กับผู้คนจำนวนมาก ที่ระดับความลึก 80-100 เมตรจากผิวดิน ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่ข้างใต้ยังมีความกว้างและมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากพอ ในการเคลื่อนย้ายยานรบหุ้มเกราะด้วย บ่งชี้ว่า เครือข่ายเหมืองใต้ดินในบริเวณนี้ คือ “ศูนย์กลางโลจิสติกส์ใต้ดินที่สำคัญยิ่ง”

กลุ่มควันจากปืนใหญ่ ที่กองทัพรัสเซียและยูเครนต่อสู้กัน ในเมืองบัคมุต ทางตะวันออกของยูเครน


การเปิดเผยทรรศนะของพริโกซิน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในกลุ่มคนวงในของประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังสื่อตะวันตกหลายแห่งรายงานโดยอ้างเป็นข้อมูลจากแหล่งข่าวระดับสูงในทำเนียบขาว ซึ่งคาดการณ์ว่า พริโกซินส่งนักรบวากเนอร์ร่วมการสู้รบในเขตบัคมุต เนื่องจากต้องการครอบครองเหมืองเกลือและเหมืองแร่ยิปซัมในพื้นที่ เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของตัวเอง แต่ไม่ได้ให้ความเห็นอย่างชัดเจนว่า พริโกซินต้องการเหมืองทั้งหมด “ด้วยเหตุผลทางทหาร”


ขณะที่ กระทรวงกลาโหมยูเครน ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า แขวงบัคมุต และแขวงโซเลดาร์ ซึ่งเป็นเหมืองเกลือที่สำคัญของประเทศ ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลเคียฟ และประณามการที่ทหารรัสเซียยังคงยิงปืนใหญ่อย่างต่อเนื่อง ตลอดวันเสาร์ที่ผ่านมา ทั้งที่ยังอยู่ในช่วงหยุดยิง 36 ชั่วโมงของรัฐบาลมอสโก เพื่อเฉลิมฉลองวันคริสต์มาสของนิกายออร์โธด็อกซ์.

เครดิตภาพ : REUTERS