สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบราซิเลีย ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 11 ม.ค. ว่า จากกรณีผู้ประท้วงนิยมแนวทางการเมืองฝ่ายขวา และสนับสนุนอดีตประธานาธิบดี ฌาอีร์ โบลโซนารู บุกรุกอาคารรัฐสภา ทำเนียบประธานาธิบดี และที่ทำการศาลฎีกา ในกรุงบราซิเลีย เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา แล้วทำลายทรัพย์สินจนเสียหายอย่างหนัก เพื่อประท้วงประธานาธิบดีลูอิซ อิกนาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ผู้นำฝ่ายซ้ายคนปัจจุบัน เรียกเสียงประณามเป็นวงกว้างจากหลายฝ่ายทั้งในและต่างประเทศนั้น

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสภาพความเสียหาย ภายในอาคารศาลฎีกา กรุงบราซิเลีย


ศาลฎีกาบราซิลอนุมัติคำร้องของตำรวจ ในการออกหมายจับนายแอนเดอร์สัน ตอร์เรส อดีต รมว.ยุติธรรม ในสมัยรัฐบาลโบลโซนารู ซึ่งเมื่อหมดวาระจากตำแหน่งดังกล่าว ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการด้านความปลอดภัยสาธารณะของกรุงบราซิเลีย แต่ถูกปลดพ้นจากตำแหน่งแล้ว หลังเกิดการจลาจล


ขณะเดียวกัน ศาลสูงสุดยังรับรองคำร้องของพนักงานสอบสวน ในการออกหมายจับเจ้าหน้าที่ฟาบิโอ ออกุสโต วิเอรา ผู้บัญชาการสำนักงานสารวัตรทหารกรุงบราซิเลีย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่า พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาใดต่อตอร์เรสและวิเอรา
ด้านสำนักงานตำรวจบราซิลรายงานเพิ่มเติมว่า ปล่อยตัวผู้ประท้วงแล้ว 599 คน จากทั้งหมดมากกว่า 1,500 คน ที่จับกุมตั้งแต่หลังเกิดการจลาจล

บรรยากาศเงียบสงบภายในบริเวณรัฐสภาของบราซิล ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตรึงกำลังอยู่ด้านนอก หลังเกิดเหตุจลาจล เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา


ขณะที่ ลูลา ยังคงประณามโบลโซนารูอย่างหนัก ว่าเป็นผู้ปลุกระดมให้มวลชนฝ่ายสนับสนุนก่อการจลาจล ส่วนอดีตผู้นำบราซิลซึ่งเดินทางไปยังเมืองไมอามีของสหรัฐ ตั้งแต่ช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา ยืนยัน “ความสนับสนุนต่อการประท้วงอย่างสันติ” และยืนยันเดินทางกลับภายในเดือนนี้ หลังต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเมืองไมอามีประมาณ 1 วัน เพื่อตรวจสอบบาดแผลที่ลำไส้ ซึ่งเป็นผลจากการถูกลอบแทง ระหว่างลงพื้นที่หาเสียง เมื่อปี 2561.

เครดิตภาพ : REUTERS