เมื่อวันที่ 11 ม.ค. นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงกรณีที่มีการตั้งคำถามต่างๆต่อนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า เรื่องยกเลิกแบล็กลิสต์บูโร ว่า คำถามที่ว่าแบล็กลิสต์ไม่มีจริง แต่รายงานเครดิตบูโรมีเพียงประวัติชำระหนี้ของบุคคล ไม่ได้ขึ้นบัญชีบุคคลห้ามกู้สินเชื่อนั้น ตนยืนยันว่าแบล็กลิสต์นี้มีจริง เพราะระบบการบันทึกข้อมูลเครดิตจะคล้ายกับบันทึกประวัติอาชญากรรม โดยบริษัทข้อมูลเครดิตจะบันทึกและรายงานต่อสถาบันการเงินถึงประวัติพฤติกรรม 3 ปี ไม่ใช่แค่สถานะเครดิตปัจจุบัน ในความเป็นจริง แม้คนที่จ่ายหนี้คงค้างไปแล้ว แต่ยังมีประวัติด่างพร้อยที่ยากต่อการกู้เงินได้ โดยกว่าจะกลับมากู้ได้ปกติหรือกู้ดอกเบี้ยต่ำได้อีก ต้องใช้เวลายาวนาน คนตัวเล็กเสียเปรียบและฟื้นตัวยาก แม้บริษัทข้อมูลเครดิต หรือธนาคารไม่ได้ทำรายการบุคคลห้ามกู้ แต่การรายงานประวัติพฤติกรรมสินเชื่อทั้งชุดดังกล่าว ก็ทำให้ธนาคารมีสบช่องปฏิเสธสินเชื่อ

นายอรรถวิชช์ กล่าวอีกว่า นโยบายยกเลิกแบล็กลิสต์ของพรรคชาติพัฒนากล้า ไม่ใช่การลบประวัติการชำระหนี้ แต่เป็นการจะไม่รายงานประวัติพฤติกรรม 3 ปีของผู้กู้ โดยจะแจ้งเฉพาะคะแนนที่สะท้อนสภาพปัจจุบันของผู้กู้ ด้วยเครื่องมือประเมินคุณภาพสินเชื่อหรือเครดิต สกอริ่ง (Credit Scoring) ที่ใช้กันในหลายประเทศ และการยกเลิกระบบแบล็กลิสต์แล้วเปลี่ยนเป็นระบบเครดิต สกอริ่งนั้น ไม่มีผลเสีย แต่มีผลดีคือธนาคารปล่อยกู้ได้ง่ายขึ้น โดยระบบดังกล่าวเป็นการแจ้งคะแนนที่จะนำเอาข้อมูลดีมาประกอบด้วย อาทิ รายได้ การชำระค่าน้ำและค่าไฟ ระบบการจ่ายเงินทางอิเล็กทรอนิกส์บนแอพพลิเคชั่นต่างๆ นอกจากนี้ขอยืนยันว่านโยบายดังกล่าวสามารถเกิดขึ้นได้ โดยการเสนอร่างแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 โดยแก้ไขให้ใช้ระบบเครดิต สกอริ่ง เป็นรูปแบบการจำแนกคุณภาพสินเชื่อของบุคคลตามจริง แทนที่ระบบแบล็กลิสต์ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ประชาชนเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น และรักษาระบบสินเชื่อให้เป็นไปตามความจริง.