จากกรณี เด็กชายชั้น ม.3 ที่เรียนดี ถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกลงทุนจนสูญเงินไปนับหมื่น ทำให้เกิดความเครียดอย่างหนักและไม่กล้าบอกกล่าวเล่าความจริงให้ผู้ปกครองฟัง ไปเขียนจดหมายสารภาพผิดว่าขโมยเงินครอบครัว และผูกคอตัวเองเสียชีวิตในป่า โดยในจดหมายยังวิงวอนให้ตำรวจจับกุมแก๊งนี้ให้ได้ ซึ่งภายหลังสามารถจับกุมบัญชีม้าได้แล้ว ตามที่ปรากฏเป็นข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า โลกต่อไปจะวิวัฒนาการทางเทคโนโลยี และก็นำไปสู่วินาศชนาการทางศีลธรรม และการที่เล่นซื้อของออนไลน์ซื้ออะไรต่าง ๆ หวังจะได้กำลังเท่านู้นเท่านี้ โอกาสที่จะถูกหลอกมีมากกว่า คนที่เป็นบัญชีม้า ได้เล็กๆน้อยๆ แต่เป็นด่านแรกที่ตำรวจจะต้องจัดการ อย่าเห็นแก่เล็กน้อยเลย อย่างที่โบราณว่า เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย เสียโอกาสนิดเดียวที่เขาให้ เขาให้ 500 ยอมเสียไปเถอะ แล้วจะได้ไม่ต้องมาเสียอิสรภาพ มาถูกจับกุมคุมขังต้องโทษลงอาญา

ตอนนี้อยากฝากถึงกระทรวงศึกษาฯ เราร่างหลักสูตร แต่เราไม่ดูสถานการณ์ สถานการณ์กับหลักสูตรมันไม่ตรงกัน ตอนนี้ควรจับประเด็นสถานการณ์ นักเรียนเสียท่าแบบนี้ควรจะอบรมเป็นวิชา เป็นศาสตร์ป้องกันโกง ใส่ไว้เถอะเด็กจะได้ไม่เป็นเหยื่อคนขี้โกง เพราะฉะนั้นถ้าเรียนไปแล้วแก้ปัญหาไม่ได้ เช่นนี้แล้วการศึกษาเรียกว่าล้มเหลวหรือไม่ เพราะฉะนั้นกระทรวงศึกษาฯ รีบร่างหลักสูตรสักหลักสูตรหนึ่ง ติดตามว่าสถานะการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างไร จะถึงวันเด็กแล้ว เขาบอกเด็กฉลาด ชาติเจริญ ถ้าเด็กไม่ฉลาด ชาติไม่เจริญ ตัวเขาเองก็ไม่เจริญ ครอบครัวก็ไม่เจริญ การศึกษาก็ไม่เจริญ เพราะฉะนั้น “…ให้เด็กฉลาดรู้เท่าทันการโกงดีที่สุด…”
