สัปดาห์นี้เป็นตอนที่สองของคอลัมน์นี้ในปี 2566 ที่ในปีนี้ก็มีหลายคนที่มองว่า เป็นปีที่น่าจะมีความหวังมากขึ้นในเรื่องของเศรษฐกิจ หลังจากฟุบกันมานานเกือบ 3 ปี นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทุกคนก็คงจะต้องไม่หยุดหมดหวัง ทั้งนี้ สำหรับวันนี้คอลัมน์นี้ ก็มีข้อมูลน่าสนใจมาฝากให้พิจารณากัน โดยเป็นข้อมูลเกี่ยวกับ “เทรนด์สินค้า SME น่าจับตาปี 2566”

สำหรับแนวโน้มของ “กลุ่มสินค้า SME” ที่คาดว่า “มาแรง” ในปีนี้ เป็นผลสำรวจและการคาดการณ์แนวโน้มจากทางบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ที่ได้รวบรวมข้อมูลด้านการตลาดผ่านกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอย เพื่อให้ผู้ประกอบการเห็นถึงเทรนด์สินค้าที่จะได้รับความนิยมในอนาคต โดยในปี 2566 มีอยู่ 7 กลุ่มสินค้า คือ 1.กลุ่มสินค้าสำหรับผู้สูงวัย โดยสินค้าที่จะคว้าใจผู้สูงวัยได้จะเป็นสินค้าประเภทอาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ หรือสินค้าที่ช่วยสร้างประสบการณ์ดี ๆ เช่น ข้าวต้มพร้อมรับประทาน 2.กลุ่มสินค้าช่วยเพิ่มความสะดวก เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคปัจจุบันชอบความสะดวกสบาย ดังนั้นสินค้าจึงต้องอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคได้มากขึ้น เช่น ผลไม้ที่เดิมใส่ห่อขายเป็นลูก อาจจะต้องหั่นเป็นชิ้นพร้อมไม้จิ้ม เพื่อให้สะดวกในการรับประทาน 3.กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพและความงาม ผลพวงโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคใส่ใจกับสุขภาพและการดูแลตัวเองมากขึ้น ทำให้สินค้ากลุ่มนี้ขยายตัวต่อเนื่อง อาทิ สินค้าธัญพืช สินค้าที่มีส่วนผสมสมุนไพร 4.กลุ่มสินค้าไซซ์เล็ก ด้วยไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่นิยมอยู่คนเดียวหรือมีครอบครัวขนาดเล็กลง ดังนั้นจึงควรผลิตสินค้าที่อยู่ในแพ็กเกจจิ้งที่เหมาะแก่การรับประทานครั้งเดียว หรือเหมาะกับการรับประทานแค่ 1-2 คน 5.กลุ่มสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เทรนด์ใส่ใจและรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นเรื่องที่ผู้บริโภคยุคนี้สนใจมากขึ้น ซึ่งผู้ประกอบการไม่ควรมองข้าม เนื่องจากผู้บริโภคยุคใหม่ มักมองหาสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นับตั้งแต่กระบวนการคัดสรร กระบวนการผลิต ไปจนถึงตัวสินค้า 6.กลุ่มสินค้าที่ต่อยอดเอกลักษณ์จากผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ปีนี้เทรนด์ Local Lover ยังคงมีแนวโน้มเติบโต เพียงแต่ผู้ประกอบการจะต้องมีเครื่องการันตีว่า สินค้านั้นเป็นแบรนด์ท้องถิ่นที่มีคุณภาพและมีแหล่งที่มาจากท้องถิ่นจริง เช่น มีตราสัญลักษณ์ GI เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและลูกค้า 7.กลุ่มสินค้าที่มีนวัตกรรม เพราะนวัตกรรมยังเป็นเทรนด์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนวัตกรรมนั้น นอกจากจะช่วยสร้างความแตกต่างแล้ว ยังสร้างมูลค่าเพิ่มด้วย…และนี่ก็เป็น “กลุ่มสินค้า SME ปี 2566” ที่น่าสนใจ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เอสเอ็มอีนำไปศึกษาปรับใช้ได้.

ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ [email protected]