เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 20 ม.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมด้วย นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ติดตามการพัฒนาทรัพยากรน้ำในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และ จ.นครสวรรค์ โดยในช่วงเช้าลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าการก่อสร้างโครงการประตูระบายน้ำท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก และโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำน่าน ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก พร้อมพบปะประชาชนในพื้นที่โครงการ 

โดย พล.อ.ประวิตร รับฟังการบรรยายสรุปความคืบหน้าการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่และการก่อสร้างประตูระบายน้ำ 4 แห่ง คือ ประตูระบายน้ำท่านางาม ท่าแพ บ้านวังจิก และโพธิ์ประทับช้าง ซึ่งเก็บกักน้ำลำน้ำรวมได้กว่า 38 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่รับประโยชน์กว่า 2 แสนไร่ พื้นที่รับประโยชน์ทั้ง จ.พิษณุโลก และ จ.พิจิตร  

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ลงตรวจติดตามการก่อสร้างประตูระบายน้ำท่านางงาม อ.บางระกำ เพื่อรองรับพื้นที่ 5 ตำบล 1 อำเภอ พื้นที่รับประโยชน์ 51,375 ไร่ และตรวจพื้นที่ โครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำน่านทั้งสองฝั่ง ต.พลายชุมพล อ.เมือง พร้อมพบปะและรับฟังปัญหาประชาชนในพื้นที่ โดยประชาชนในพื้นที่บางระกำ ได้ขอบคุณ พล.อ.ประวิตร ที่ลงมาช่วยแก้ปัญหาผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมและน้ำแล้งอย่างจริงจัง โดยสามารถมีน้ำใช้เพื่อการเกษตรและการดำรงชีพได้อย่างพอเพียงในฤดูแล้ง

พล.อ.ประวิตร กล่าวกำชับ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กรมชลประทาน และหน่วยงานในพื้นที่ ประเมินพื้นที่เสี่ยงและเร่งหาแนวทางป้องกันน้ำท่วมจากปัญหาที่ผ่านมาโดยให้แก้ไขทันที ขอให้ความสำคัญเร่งดำเนินการโครงการพัฒนาแหล่งน้ำและพื้นที่หน่วงน้ำในพื้นที่ โดยเฉพาะการก่อสร้างประตูระบายน้ำท่างาม เพื่อกักเก็บน้ำยมและเขื่อนป้องกันตลิ่งริมน้ำน่านให้แล้วเสร็จตามแผนงาน สำหรับรองรับน้ำหลากและสะสมเก็บกักน้ำต้นทุนในฤดูฝนรวมทั้งเก็บกักน้ำใต้ดินในคราวเดียวกัน เพื่อขยายขีดความสามารถจัดสรรกระจายน้ำให้ทั่วถึงในวงกว้าง เพื่อเพิ่มพื้นที่การเกษตรในฤดูแล้ง พร้อมย้ำ ถึงความมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำในภาพรวม ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำไปพร้อมกัน โดยเฉพาะความเร่งด่วนในการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ เพื่อยกระดับศักยภาพของท้องถิ่นและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่

ด้าน นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมถึงความก้าวหน้าการพัฒนาทรัพยากรน้ำในพื้นที่ 2 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ว่า รัฐบาลได้มีการเร่งรัดผลักดันการขับเคลื่อนโครงการด้านน้ำตลอด 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 61-65) รวมเกือบ 3,000 โครงการ แบ่งเป็น จ.พิษณุโลก 1,881 โครงการ จ.นครสวรรค์ 1,087 โครงการ อาทิ ประตูระบายน้ำท่านางงามพร้อมอาคารประกอบ โครงการก่อสร้างและเพิ่มประสิทธิภาพระบบรวบรวมน้ำเสีย เทศบาลนครพิษณุโลกแก้มลิงคลองละหานพร้อมอาคารประกอบ แก้มลิงบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ ระบบป้องกันน้ำท่วมพื้นที่ชุมชนวัดไทรย์ อ.เมืองนครสวรรค์ เป็นต้น ซึ่งนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำให้ สทนช.บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามแผนการพัฒนาโครงการต่างๆ ภายใต้แผนแม่บทน้ำ 20 ปี เพื่อให้ทรัพยากรน้ำของประเทศเกิดความมั่นคงส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน และเศรษฐกิจของประเทศ.