เมื่อวันที่ 20 ม.ค. นายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) และประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ พร้อมทีมเศรษฐกิจ ได้แก่ น.ส.ศวิตา สำลีพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 4 จ.เลย, นายรุ่งเพชร ศรีกาญจนา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จ.หนองบัวลำภู, ดร.ณัฐพล เนื่องชมภู ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 จ.บึงกาฬ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. จ.อุดรธานี ได้แก่ ว่าที่ ร.ต.ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น เขต 2, นายหรั่ง ธุระพล เขต 3, นายโชคเสมอ คำมุงคุณ เขต 4, นายโอภาส พรหมโคตร เขต 5, นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ เขต 6, และนายฐานวัฒน์ ธนาธัญญพิชญ์ เขต7 จัดเวทีแก้หนี้ให้คนตัวเล็ก ที่พิพิธภัณฑ์ผีขนน้ำ บ้านนาซ่าว อ.เชียงคาน จ.เลย โดยชาวบ้านในพื้นที่จัดการแสดงการละเล่นประเพณีผีขนน้ำ หรือ ‘แมงหน้างาม’ ตามความเชื่อคือวิญญาณของวัวควายที่จะนำน้ำ และฝนฟ้าที่ตกต้องตามฤดูกาลมาให้ชาวบ้านได้ทำเกษตรกันอย่างสมบูรณ์ ในช่วงเวลาต่อมา การละเล่นผีขนน้ำจึงกลายเป็นการขอฟ้าขอฝนให้ตกต้องตามฤดูกาล
“8 ปีที่ผ่านมาทุกคนลำบาก ไม่มีใครไม่เป็นหนี้ ยิ่งอยู่ยิ่งเป็นหนี้ ต้องขายทุกอย่างจากขายยาง ขายอ้อย วันนี้ต้องมาขายรถ ขายทรัพย์สิน สมัยตอนที่เป็นประธานสภาอุตสาหกรรมฯ แนะนำแนวทางแก้เศรษฐกิจกับนายกรัฐมนตรีไปหลายเรื่อง แต่ก็ยังไม่ถูกนำไปใช้ให้เศรษฐกิจดีขึ้นมา” นายสุพันธุ์ กล่าว
นายสุพันธุ์ กล่าวว่า วันนี้พรรค ทสท. มีนโยบายที่จะทำให้ชาวไทยมีเงิน มีรายได้ ด้วยนโยบายกองทุนเครดิตประชาชน ให้ทุกคนกู้ได้ตั้งแต่ 5,000-50,000 บาท, นโยบายบำนาญประชาชน 3,000 บาท, นโยบายเรียนฟรีถึงปริญญาตรี พร้อมทั้งลดเวลาเรียน 3 ปี (จบปริญญาตรีได้ตั้งแต่อายุ 18 ปี) เพื่อให้จบออกมาทำมาหากิน สร้างรายได้, นโยบาย 30 บาทพลัส, นโยบายหวยบำเหน็จ ซื้อหวยแล้วได้เงินต้นคืนเป็นเงินออม เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีนโยบายเกษตร เมื่อสมัยเป็นประธานสภาอุตสาหกรรมเคยตั้งสถาบันอุตสาหกรรมเพื่อการเกษตร เพื่อส่งเสริมการทำเกษตร วันนี้จะเอามาต่อยอดด้วยการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม และจะทำให้เกษตรราคาดีน้ำถึง และยังมีแนวทางหาตลาดสร้างรายได้ให้เกษตรกร โดยนายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลต้องไม่นั่งอยู่แต่ในทำเนียบ แต่ต้องออกไปหาเงิน ไปขายของ เดินทางไปต่างประเทศ หาตลาดให้คนไทย และต้องให้อุตสาหกรรมไทยมีแต้มต่อกว่าต่างชาติ
“ผมเกิดมาก็ไม่ได้คาบช้อนเงินช้อนทอง มาจากคนตัวเล็ก แต่มุ่งมั่นจนรวยได้ วันนี้มาอยู่ในพรรคไทยสร้างไทยก็คิดว่าทำยังไงให้ชีวิตคนไทยจะดีขึ้น ‘หนี้’ คือปัญหาของชาวบ้าน บั่นทอนจิตใจ เพราะต้องมัวแต่หาเงินจ่ายดอกเบี้ย ถ้าเขาไม่มีหนี้ เขาจะกลับมาหาเงินได้ ดูแลสุขภาพตัวเองได้” นายสุพันธุ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นได้มีชาวบ้านมายื่นหนังสือร้องเรียนถึงปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทางนายสุพันธุ์จึงได้ประกาศนโยบายราคาสินค้าเกษตรของพรรค ทสท. อาทิ จะทำให้ยางก้อนกิโลกรัมละ 45 บาท ปาล์ม กิโลกรัมละ 3 บาท ข้าวหอมมะลิเกวียนละ 18,000 บาท ปุ๋ยกระสอบละไม่เกิน 500 บาท
“หากเราเข้าไปเป็นรัฐบาลจะทำได้อย่างแน่นอน ด้วยมาตรการการเก็บและกระจายสินค้า และให้สัญญาว่าถ้าทำไม่ได้ คราวหน้าก็ไม่ต้องมาเลือกพวกเรา” นายสุพันธุ์ กล่าว
ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจพรรค ทสท. ได้ถือโอกาสสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จ.เลย และศาลเจ้าปู่บ้านนาซ่าว พร้อมขอพรให้เศรษฐกิจประเทศไทยในปี 66 กลับมาฟื้นตัว และคนตัวเล็ก ผู้ประกอบการกลับทำมาหากินได้อย่างคึกคัก.