สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ว่า สภายุโรปมีมติเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา รับรองมติเสียงข้างมากท่วมท้น 598 คัดค้าน 9 เสียง และงดออกเสียง 31 เสียง ว่าด้วยการเรียกร้องสหภาพยุโรป (อียู) ขึ้นบัญชีดำกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (ไออาร์จีซี) ในฐานะ “องค์กรก่อการร้าย” พร้อมทั้งประณามการใช้ความรุนแรงของเจ้าหน้าที่ไออาร์จีซี และหน่วยงานในสังกัดอีกหลายแห่ง ต่อสถานการณ์ประท้วง ซึ่งยืดเยื้อตั้งแต่กลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา โดยมีชนวนเหตุจากการเสียชีวิตของ น.ส.มาห์ซา อมินี หลังเธอถูกตำรวจศีลธรรมจับกุม “เพราะแต่งกายไม่สุภาพ”


ขณะเดียวกัน มติของสภายุโรปยังวิจารณ์การใช้โทษประหารชีวิตของรัฐบาลเตหะราน ซึ่งเกิดบ่อยครั้งขึ้น นับตั้งแต่การประท้วง และการที่อิหร่านมอบความสนับสนุน “โดรนพิฆาต” ให้กองทัพรัสเซีย ใช้ปฏิบัติการในสงครามยูเครน นอกจากนั้น เนื้อหาในมติยังเรียกร้องให้อียูคว่ำบาตรโดยตรง ต่ออยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ประธานาธิบดีอีบราฮิม ไรซี และหน่วยงานทุกแห่งซึ่งมีความเชื่อมโยงกับไออาร์จีซี


แม้มติของสภายุโรปไม่มีผลผูกพันทางกฎหมาย และไม่จำเป็นที่อียูต้องปฏิบัติตามมติดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคนของสหภาพ แสดงท่าทีชัดเจนว่า สนับสนุน ขณะที่สำนักข่าวแห่งชาติอิหร่าน (ไออาร์เอ็นเอ) รายงานโดยอ้างเป็นคำกล่าวของไรซี ประณามมติของสภายุโรป “เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและขัดต่อกฎบัตรสหประชาชาติ (ยูเอ็น)”


ด้านกระทรวงการต่างประเทศอิหร่านออกแถลงการณ์ว่า ไออาร์จีซีถือเป็น “องค์กรต่อต้านการก่อการร้ายขนาดใหญ่ที่สุดในโลก” เนื่องจาก “เคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเพื่อต่อต้านอิสราเอล ซึ่งเป็นองค์กรก่อการร้ายขนาดใหญ่ที่สุด ก่อตั้งโดยสหราชอาณาจักร และสนับสนุนโดยสหรัฐ”.

เครดิตภาพ : REUTERS