สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ว่ากองกำลังป้องกันอิสราเอล ( ไอดีเอฟ ) ออกแถลงการณ์เรื่องปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ต่อเป้าหมายหลายแห่งในฉนวนกาซา โดยเน้นเมืองข่าน ยูนิส ที่อยู่ทางใต้ และเมืองจาบาเลียที่อยู่ทางเหนือ ระหว่างคืนวันจันทร์ต่อเนื่องถึงช่วงรุ่งสางของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น เพื่อทำลายเป้าหมายซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มฮามาส เบื้องต้นยังไม่มีรายงานยืนยันความเสียหาย และความสูญเสียต่อชีวิตของประชาชน
ทั้งนี้ รายงานของไอดีเอฟระบุด้วยว่า ปฏิบัติการโจมตีที่เกิดขึ้น เป็นผลจากการที่กองกำลังติดอาวุธในฉนวนกาซาส่งลูกโป่งผูกระเบิดลอยข้ามเขตแดนมาอีกหลายลูก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้เกิดไฟป่าในพื้นที่หลายแห่ง ในเขตทางตอนใต้ของอิสราเอล ขณะที่กลุ่มฮามาสและแนวร่วมยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการ โดยการใช้ลูกโป่งผูกระเบิดลักษณะนี้ เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่กลุ่มติดอาวุธในฉนวนกาซามักใช้โจมตีอิสราเอล นับตั้งแต่ถูกปิดล้อมเมื่อปี 2550 ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่กลุ่มฮามาสเข้ายึดครองฉนวนกาซาด้วย
เจ้าหน้าที่กู้ภัยให้ความช่วยเหลือเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับตำรวจของอิสราเอล บริเวณเขตแดนระหว่างทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการทางทหารของไอดีเอฟในฉนวนกาซารอบนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดครั้งใหม่ ตามแนวเขตแดนระหว่างอิสราเอลกับฉนวนกาซา โดยการประท้วงของชาวปาเลสไตน์ในพื้นที่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา บานปลายเป็นเหตุรุนแรง และตำรวจลาดตระเวนชายแดนของอิสราเอลยิงเด็กชายชาวปาเลสไตน์ วัย 13 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส
อนึ่ง ย้อนกลับไปเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา อิสราเอลและกลุ่มฮามาสสู้รบข้ามเขตแดนในฉนวนกาซา นานต่อเนื่อง 11 วัน ก่อน "ยอมสงบศึก" ด้วยการยอมรับเงื่อนไขของอียิปต์ แต่ความรุนแรงที่เกิดขึ้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 250 ราย ในฉนวนกาซา และอีก 12 รายในอิสราเอล จากจำนวนดังกล่าวรวมแรงงานชายชาวไทย 2 ราย.

เครดิตภาพ : AP, REUTERS