สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ว่า สำนักข่าวอาร์ไอเอของทางการรัสเซียรายงาน โดยอ้างเป็นประกาศของกระทรวงการต่างประเทศ ว่า สืบเนื่องจากมาตรการต่อต้านรัสเซีย ที่ญี่ปุ่นดำเนินการฝ่ายเดียวอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลมอสโกแจ้งให้รัฐบาลโตเกียวทราบแล้วว่า จะไม่มีการหารือระดับรัฐต่อรัฐ เพื่อรื้อฟื้นและขยายระยะเวลาของข้อตกลง


ทั้งนี้ รัสเซียประกาศเมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว ระงับข้อตกลงระดับทวิภาคีฉบับปี 2541 ว่าด้วยการกำหนดโควตาให้ญี่ปุ่นสามารถเข้าไปทำประมงในพื้นที่ใกล้กับหมู่เกาะคูริล เนื่องจากรัฐบาลโตเกียวเป็นฝ่ายละเมิดเงื่อนไข ด้วยการเริ่มชะลอการมอบความสนับสนุนทางการเงินและทางเทคนิค ให้แก่ภูมิภาคซาคาลิน ที่อยู่ภายใต้อธิปไตยของรัฐบาลมอสโก และตั้งอยู่ทางเหนือสุดของญี่ปุ่น เพื่อแลกกับโควตาการจับปลาแต่ละปีในบริเวณนั้น


ขณะที่เมื่อเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซีนติดตั้งระบบขีปนาวุธป้องกันชายฝั่ง “บาสเตียน” หรือที่มีชื่อบนฐานข้อมูลขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) ว่า “เอสเอส-ซี-5 สตูจ” ( SS-C-5 Stooge ) ซึ่งมีพิสัยทำการเป็นระยะทางประมาณ 500 กิโลเมตร บนเกาะปารามูเชียร์ หนึ่งในเกาะย่อยส่วนเหนือของหมู่เกาะคูริล “เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ” ให้กับเจ้าหน้าที่ยามฝั่งของกองเรือแปซิฟิก ในการ “ลาดตระเวนและเฝ้าระวัง” ตลอดจน “ควบคุม” น่านน้ำบริเวณนั้น


ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น เรื่องกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะคูริล ในทะเลโอคอตสค์ ที่เป็นดินแดนอยู่ภายใต้อธิปไตยของรัสเซีย ยืดเยื้อนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง และทั้งสองประเทศยิ่งมึนตึงต่อกันมากขึ้น เมื่อญี่ปุ่นดำเนินการตามตะวันตก คว่ำบาตรรัสเซียจากกรณีสงครามยูเครน


อย่างไรก็ตาม รัฐบาลโตเกียว ยืนกรานว่า บริเวณดังกล่าวถือเป็น “ภูมิภาคเขตเหนือ” ของญี่ปุ่น โดยเฉพาะเกาะย่อย 4 แห่งคือ อิตูรุป คูนาเชียร์ ชิโกตัน และฮาโบไม การเจรจาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งแทบไม่มีความคืบหน้าที่สร้างสรรค์ ส่งผลให้รัสเซีย และญี่ปุ่น ยังไม่สามารถลงนามในข้อตกลงสันติภาพหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ร่วมกันได้อย่างเป็นทางการ.

เครดิตภาพ : REUTERS