นายอภิชัย เอกวนากุล รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวว่า ปัจจุบันการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนยังเป็นเรื่องที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนเพื่อทำประโยชน์ในเชิงธุรกิจ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ป่าชายเลน นับเป็นการกระทำที่ก่อให้เกิดการสูญเสียและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศป่าชายเลนเป็นอย่างมาก

ดังนั้น กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) จึงมอบหมายให้หน่วยงานในพื้นที่ เร่งดำเนินการประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล เพื่อช่วยกันสอดส่องดูแลและเป็นกำลังสำคัญในการแจ้งเบาะแสต่างๆ เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าชายเลนเป็นอย่างมาก พร้อมทั้งกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามนโยบายอย่างเคร่งครัด ในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้และแก้ไขปัญหาบุกรุกป่าชายเลน พร้อมให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาการทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งท่านได้มอบหมายให้ กรม ทช. ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการวางแผนพร้อมทั้งหาแนวทางเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเน้นการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งได้วางแผนดำเนินการฟื้นฟูฟื้นที่ป่าชายเลนให้กลับคืนมาสมบูรณ์ดังเดิมอีกครั้ง

และในวันนี้ (31 มกราคม 2566) ตนพร้อมด้วยนายดำรง มูลสาร ผู้อำนวยการกองกฎหมาย นายวัธน์ทัย ชูชื่น ผู้อำนวยการส่วนพิสูจน์และจัดการสิทธิที่ดินป่าชายเลน และนายปานศักดิ์ ซินพรมราช ผู้อำนวยการส่วนสื่อสารองค์กร ได้เดินทางไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อเข้าพบนายนริศ ขำนุรักษ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในการหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ป่าชายเลน พร้อมทั้งรายงานข้อมูลและความคืบหน้ากรณีตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่ป่าชายเลน จำนวนทั้งสิ้น 93 ฉบับ/แปลง เนื้อที่รวม 2,574-1-74.1 ไร่ ที่กรม ทช. ส่งเรื่องให้กรมที่ดินพิจารณาดำเนินการแล้ว เพื่อหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการออกเอกสารสิทธิในพื้นที่ป่าชายเลนที่รับผิดชอบ พร้อมกันนี้ ได้มอบรายละเอียดข้อมูลการออกเอกสารสิทธิในเขตพื้นที่ป่าชายเลนที่อาจจะออกโดยมิชอบหรือผิดพลาดคลาดเคลื่อนแก่ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้กรมที่ดินพิจารณาเพิกถอนหรือแก้ไขตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ต่อไป

นายอภิชัย กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ชายเลน เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ที่มุ่งเน้นให้ทุกฝ่ายปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันอย่างจริงจังและเข้มข้น นอกจากนี้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการให้กรม ทช. กำชับเจ้าหน้าที่ในพื้นที่หมั่นตรวจตรา ลาดตระเวน เฝ้าระวัง ควบคุม ป้องกันและปราบปรามอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ พร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมายตามกระบวนการขั้นตอนทางกฎหมาย ข้อระเบียบ มาตรการ และแนวทางปฏิบัติ รวมถึงบูรณาการทางกฎหมายหาข้อกำหนดรูปแบบความเกี่ยวเนื่อง เพื่อร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าชายเลนในท้องที่รับผิดชอบเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด