เมื่อวันที่ 6 ก.พ. จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความว่า “ต้องการความช่วยเหลือด้วยครับ ก่อนที่จะสูญเสียมากไปกว่านี้ ขอบอกเลยว่าช่วงนี้ที่บริเวณเกาะกระดาน ทะเลตรัง เจอแบบนี้เยอะมาก และวางอวนใกล้หน้าที่ทำการอุทยานฯ เลย ได้เหรอครับ ผมไม่ต่อต้านคนทำมาหากินทางทะเลนะ แต่อยากให้มีจิตสำนึกในสิ่งที่ทำ และอยากให้อุทยานฯ ช่วยดูแลตรงนี้หน่อย ช่วงนี้บ่อยเหลือเกิน ขอวอนผู้เกี่ยวข้องครับ พร้อมกันนี้ได้มีการโพสต์ภาพเศษอวนที่คลุมปะการังเป็นแนวยาว ทั้งยังมีภาพที่สะเทือนใจขณะที่ปลาปักเป้ากำลังพองตัว และปลาอีกหลายชนิดติดอยู่ในอวน พร้อมทั้งมีการแท็กชื่ออุทยานหาดเจ้าไหม หลังจากมีการโพสต์ออกไปก็มีการแชร์และเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันเป็นวงกว้าง

ความคืบหน้าล่าสุด นักประดาน้ำจิตอาสาจาก Trang Pro dive และ Laytrang Diving อบต.เกาะลิบง ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการอุทยานแห่งชาติทางทะเลที่ 3 จังหวัดตรัง ร่วมกันเก็บกู้เครื่องมือประมงที่อยู่ใต้ทะเล บริเวณอ่าวเนียง เกาะกระดาน หมู่ 2 บ้านเกาะมุก ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง

สำหรับบริเวณพื้นที่ที่พบเศษอวนอยู่บริเวณอ่าวเนียง ทิศใต้ ที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่ จม.3 (เกาะกระดาน) โดยจมอยู่ที่ระดับความลึก 8 เมตร ตรวจสอบพบมีเศษอวนคลุมแนวปะการังเป็นทางยาวกว่า 100 เมตร นักประดาน้ำจิตอาสาและเจ้าหน้าที่ต่างช่วยกันเก็บกู้ โดยใช้ความระมัดระวังเพื่อป้องกันความเสียหายกับแนวปะการัง โดยใช้เวลาดำน้ำประมาณ 2 ชั่วโมง สามารถเก็บกู้ได้ เบื้องต้นพบเป็นเครื่องมือประมงชนิดอวนลอย มีความยาวประมาณ 100 เมตร น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม

นายโสภณ คิ้วงาม หรือ ครูทัช อายุ 45 ปี จาก Trang Pro dive ผู้โพสต์ข้อความ กล่าวว่า วันนี้ตนและทีมนักประดาน้ำจิตอาสา เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม และ อบต.เกาะลิบง ได้ร่วมกันเก็บกู้ซากอวนที่ลอยมาติดแนวปะการัง ตนได้นำนักเรียนดำน้ำมาฝึกดำน้ำแถวอ่าวเนียง ซึ่งขณะที่อยู่ใต้น้ำดูแนวปะการังนั้นเองก็เห็นมีเศษอวนไปคลุมแนวปะการังและมีปลาหลายชนิดที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นต่างก็ติดอวนไปไหนไม่ได้ ตนและนักเรียนจึงช่วยกันแกะอวนบางส่วนออกมาก่อน

นายโสภณ กล่าวต่อว่า จากการประเมินด้วยสายตาแนวปะการังอาจจะได้รับความเสียหายบ้าง ซึ่งถ้าปล่อยไว้นานย่อมไม่ส่งผลดี จึงพูดคุยกับทีมงานจัดทีมลงเก็บกู้ครั้งนี้โดยใช้ทุนส่วนตัวและผู้มีจิตอาสาที่ช่วยกันมา อย่างไรก็ตาม ฝากนักท่องเที่ยวและหลายๆ คน ให้ช่วยกันลดใช้ขยะให้น้อยลง อย่าทำลายทรัพยากรตัวเอง เพราะถ้าถูกทำลายไปเรื่อยๆ อนาคตก็จบ.