สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 13 ก.พ. ว่า ผลอย่างไม่เป็นทางการของการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลกรุงเบอร์ลิน เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาชุดใหม่ทั้ง 130 ที่นั่ง ตามคำสั่งศาลซึ่งประกาศให้การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2564 “เป็นโมฆะ” เนื่องจาก “พบการทุจริตและความไม่ชอบมาพากลหลายประการ” ปรากฏว่า พรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียนแห่งเยอรมนี (ซีดียู) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำฝ่ายค้าน ได้รับการเลือกตั้งคิดเป็นสัดส่วน 28% เพิ่มขึ้น 10%

ขณะที่พรรคสังคมประชาธิปไตย (เอสพีดี) ซึ่งเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล ของนายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ผู้นำคนปัจจุบัน ได้รับการเลือกตั้งคิดเป็นสัดส่วน 18.2% ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2544 ที่พรรคเอสพีดีสูญเสียการครองเสียงข้างมาก ในสภาเทศบาลกรุงเบอร์ลิน

ด้านนางฟรานซิสกา กิฟฟีย์ นายกเทศมนตรีกรุงเบอร์ลินคนปัจจุบัน สังกัดพรรคเอสพีดี แถลงยอมรับผลการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม เธอเรียกร้องพรรคซีดียูและพันธมิตร “แสดงหลักฐานการครองเสียงข้างมากอย่างชัดเจน”
Berlin is repeating a state election that was botched in 2021, when many couldn't vote because ballots were missing or polling stations had to close.
— DW News (@dwnews) February 12, 2023
It's the first time Germany sees an election re-run because of logistical problems.pic.twitter.com/W90aM4Lgbg
สำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองภายในเมืองหลวงของเยอรมนี เกี่ยวกับราคาอสังหาริมทรัพย์ และค่าโดยสารบริการระบบขนส่งสาธารณะซึ่งปรับตัวสูงขึ้น สร้างความไม่พอใจให้กับประชาชน.
เครดิตภาพ : AFP