เมื่อวันที่ 15 ก.พ. น.ส.บี (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ชาว อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ร้องขอความเป็นธรรมผ่านผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพัทลุง ว่า ด.ญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.6 ได้ถูกเด็กวัยรุ่นสาวซึ่งไม่เคยรู้จัก มาดักทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บที่ต้นคอและศีรษะ อีกทั้งยังโดนถ่ายคลิปตอนที่ถูกทำร้ายไปประจานลงโลกออนไลน์ ทำให้เกิดความอับอาย เสื่อมเสียชื่อเสียง หลังเกิดเหตุ ด.ญ.เอ มีอาการจิตตก หวาดผวาไม่กล้าออกจากบ้านพัก ตนได้ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีคู่กรณีแล้ว แต่กลัวว่าคดีจะไม่คืบหน้า
ทั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงเย็นวันที่ 2 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ระหว่างที่ ด.ญ.เอ กำลังรดน้ำแปลงผักเกษตรในโรงเรียน ได้มี น.ส.สวย (นามสมมุติ) พร้อมกลุ่มเพื่อน ขี่ จยย. มาหาเรื่อง ก่อนรุมทำร้ายร่างกาย ด.ญ.เอ ด้วยการจิกผมเหวี่ยงจนล้ม ก่อนจะจับหน้าฟาดกับพื้นหลายครั้งหลายหน ระหว่างนั้นกลุ่มเพื่อนยังได้ถ่ายคลิปเอาไปประจานในโลกออนไลน์อีกด้วย ช่วงเกิดเหตุ เพื่อนของ ด.ญ.เอ ได้เข้าไปห้ามปราม แต่กลุ่มเพื่อนของ น.ส.สวย ชักมีดออกมา ก่อนจะขู่แทงใครก็ตามที่จะเข้ามาห้าม หลังจากทำร้ายร่างกาย ด.ญ.เอ จนสาแก่ใจแล้ว ทั้งหมดก็ขี่ จยย. หลบหนีไป เพื่อน ๆ จึงได้พา ด.ญ.เอ กลับบ้าน ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะรีบพาตัวส่ง รพ.ตะโหมด
สำหรับปมเหตุความขัดแย้งครั้งนี้ มาจาก ด.ญ.เอ ได้โพสต์ภาพลงสตอรี่ในเฟซบุ๊ก แล้วเพื่อนของ น.ส.สวย เข้ามากดหัวเราะทั้งที่ไม่รู้จักกัน พอเจ้าของเฟซทักไปว่าหัวเราะเขาทำไม อีกฝ่ายก็ตอบว่า “เสือก” ก่อนจะโต้เถียงกันไปมา ทั้งยังมีการชวนเพื่อนคนอื่น ๆ แชตด่าทอ บูลลี่ ด.ญ.เอ ต่าง ๆ นานา รวมทั้งข่มขู่คุมคามชีวิต และบุกมารุมทำร้ายในโรงเรียนดังกล่าว โดยช่วงที่ทำร้ายกันนั้น ทางเพื่อนของ น.ส.สวย ได้ชักมีดออกมาขู่เพื่อนของ ด.ญ.เอ ไม่ให้เข้ามาช่วยอีกด้วย
น.ส.บี ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ขณะขับรถกลับจากที่ทำงาน ป้าของลูกโทรศัพท์ไปบอกว่าว่า ลูกสาวถูกทำร้ายร่างกาย ตอนแรกเข้าใจว่าน่าจะเป็นเรื่องเด็ก ๆ ทะเลาะกัน ไม่คิดอะไรมาก แต่พอเห็นคลิปโดนจิกผม จับหน้ากระแทกพื้นอย่างแรงหลายครั้งหลายหน ถึงกับใจสลาย รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่สำคัญวันเกิดเหตุเป็นวันเกิดของลูกสาว ตนจะซื้อเค้กและเลี้ยงวันเกิด แต่กลับต้องมาพาลูกไปนอน รพ. เพื่อรักษาตัว
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทางผู้ใหญ่บ้านได้พา น.ส.สวย และพ่อแม่ เข้ามาขอโทษในสิ่งที่ทำลงไป แต่ปรากฏว่า น.ส.สวย กลับไม่สำนึกในความผิด มีการต่อว่าผู้เสียหายซ้ำเติม ทำให้อีกฝ่ายรับไม่ได้ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ป่าบอน จ.พัทลุง แล้ว จึงอยากให้ตำรวจช่วยให้ความเป็นธรรม ดำเนินคดีกับอีกฝ่ายให้ถึงที่สุดด้วย.
