เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ก.พ. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ต่อเป็นวันที่สอง โดยในช่วงเช้า ส.ส.เพื่อไทย หลายคนพากันอภิปรายถึงความล้มเหลวการแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดของรัฐบาล ที่ปล่อยให้ยาเสพติดเกลื่อนประเทศ แพร่กระจายไปทุกพื้นที่ กลายเป็นบ่อเกิดปัญหาอาชญากรรม
นายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ล้มเหลวแก้ปัญหายาเสพติดทุกมิติ ทั้งการป้องกัน ปราบปราม ฟื้นฟู มีผู้ป่วยที่อยู่ในการฟื้นฟูและมีแนวโน้มก่อความรุนแรง จำนวน 54,448 คน พร้อมก่อความรุนแรงทำร้ายคนรอบข้าง แต่รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญแก้ปัญหา งบประมาณบูรณาการป้องกันและปราบปรามและฟื้นฟูได้ลดลงทุกปี ส่วนการป้องกันและปราบปรามยิ่งล้มเหลว ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางส่งออกยาเสพติดไปทั่วโลก แม้ไม่ใช่ประเทศผู้ผลิต แต่เป็นผู้ส่งออกไปถึง 19 ประเทศ ปี 64 มีสถิติจับกุมยาเสพติดในต่างประเทศที่มีต้นทางจากประเทศไทยสูงถึง 21 คดี ปัญหายาเสพติดวิกฤติมาก เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถสกัดยาเสพติดที่ลักลอบเข้ามาตามแนวชายแดน ทำให้เกิดการแพร่ระบาดตามหมู่บ้าน สินค้าทุกอย่างราคาแพงขึ้น ยกเว้นยาบ้าราคาลดลง ขายส่งเม็ดละ 10 บาท ขายปลีกเม็ดละ 15-20 บาท พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีศักยภาพ ไม่มีปัญญาแก้ยาเสพติด ทิ้งภาระให้ประชาชนมากมาย

ทางด้านนายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ได้อภิปรายถึงประเด็นการทุจริตในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ โดยนำคลิปของนายตู้ห่าว ที่พูดกับคนกลุ่มหนึ่งว่า “ประเทศไทยขอให้มีเงินเท่านั้น อัยการก็สั่งไม่ฟ้อง” มาเปิดในที่ประชุม โดยนายวิสาร กล่าวว่า คลิปดังกล่าวแสดงว่า นายตู้ห้าวใหญ่จริงๆ เป็นเพราะทำมาค้าขายกับหลาน พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่ แก๊งทุนจีนสีเทาจึงเติบโต โดยอาศัยบารมีความใกล้ชิดกับหลาน พล.อ.ประยุทธ์ เหตุที่นายตู้ห่าว เส้นใหญ่ใจถึง เพราะบริษัทของหลาน พล.อ.ประยุทธ์ ที่ทำธุรกิจก่อสร้าง ตั้งอยู่ในค่ายทหาร แต่ไปทำธุรกิจรถทัวร์กับตู้ห่าว มีทุนจดทะเบียน 3 ล้านบาท จีนเทามาให้เราฟอก หรือหลาน พล.อ.ประยุทธ์ ไปฟอกให้ ทุกวันนี้ทาง ปปง. ก็ยังหารถทัวร์ไม่เจอ
นายวิสาร กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีอีกกรณีคือการกินรวบเงินอุทยานแห่งชาติ ที่ ป.ป.ช. บุกรวบอดีตอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยึดเงินของกลาง 5 ล้านบาท ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ เพราะอดีตอธิบดีที่ถูกจับ เป็นน้องชายของเพื่อนรักเตรียมทหารรุ่นที่ 12 ของ พล.อ.ประยุทธ์ และเมื่อปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เซ็นคำสั่งตั้งคณะกรรมการสอบอดีตอธิบดีคนดังกล่าว วันที่ 27 ธ.ค. 65 ปรากฏว่า วันที่ 28 ธ.ค. 65 พล.อ.ประยุทธ์ กลับเซ็นคำสั่งให้อดีตอธิบดีคนนี้มาช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี เหมือนเอา “ลูกไก่ไปซุกใต้ปีกแม่ไก่” เป็นการตัดตอนไม่ให้ไปหาหลักฐานเพิ่มเติม เพราะเป็นน้องชายของเพื่อนรักหรือไม่ อดีตอธิบดีคนนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ฟูมฟักมาตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ. ช่วยผลักดันจนขึ้นมาเป็นอธิบดี ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธว่าไม่จริง กล้าสาบานกับสร้อยพระห้อยคอของท่านเองหรือไม่ ส่วนการที่อดีตอธิบดีบอกว่า เงินของกลาง 5 ล้านบาท เป็นค่าเช่าพระ ตนไม่เชื่อ แต่อยากรู้ว่า พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อหรือไม่
“นอกจากนี้ยังมีการทุจริตงบปลูกป่าทิพย์ ทำแนวกันไฟทิพย์ เช่น ตั้งงบปลูกต้นไม้ 100 ต้น แต่ปลูกจริงไม่ถึง เพื่อกินส่วนต่างตอบแทน ผมขอกล่าวหา พล.อ.ประยุทธ์ เป็นฆาตกรเลือดเย็น ทำให้ชีวิตคนภาคเหนือสั้นลง 2-3 ปี จากฝุ่นทิพย์ จึงฝากอนาคตให้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้อีก เพราะเป็นผู้นำเมามันในอำนาจ ไม่รู้จักพอ ทางออกคือ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ออกไปเร็วๆ ให้เพื่อไทยกลับเข้ามา โดยใช้ปลายปากกาล้างประยุทธ์ออกไป” นายวิสาร กล่าว