เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่รัฐสภา นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยธรรม สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ หลังมีคลิปฉาวรีดเงินผู้ต้องหาด้วยการคลุมถุงพลาสติกจนเสียชีวิต จนนำไปสู่คำสั่งให้ออกจากราชการและมีการออกหมายจับ และมีกระแสข่าวลือว่าเจ้าตัวอาจจะหลบหนีไปแล้ว ว่า ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ตนจะแต่งชุดดำเพื่อไว้ทุกข์ให้กับผู้สูญเสียและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะที่เป็นผู้กำกับดูแลตำรวจ ซึ่งได้มีการกระทำซ้อมทรมานกันอย่างโหดเหี้ยม และเปิดโอกาสให้ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หลบหนีหรือไม่ ทั้งๆ ที่มีหลักฐานเป็นคลิปชัดเจน แต่ทำไมไม่มีการอนุมัติออกหมายจับ มีแค่คำสั่งย้าย โดยตนจะแต่งชุดดำจนกว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะจับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ได้ และมารับกรรมกับสิ่งที่กระทำไป นอกจากนี้ จะมีการตรวจสอบว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ร่ำรวยผิดปกติหรือไม่ เนื่องจากเมื่อวานนี้ (25 ส.ค.) มีการตรวจสอบทรัพย์สิน เช่น รถ ที่ดิน บ้าน และเงินสด

นายสิระ กล่าวว่า พื้นเพ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ ไม่ใช่คนร่ำรวย แต่มีผู้สนับสนุนเป็นตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ทราบว่าเป็นว่าที่ลูกเขยว่าที่พ่อตากัน รวมทั้งเรื่องกระทำความผิดในการรับราชการลักษณะเดียวกัน และมีการโดนไล่ออกจากราชการ แต่ยังได้กลับมารับราชการใหม่ได้ และมีความเจริญก้าวหน้าในอาชีพข้าราชการตำรวจ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องปฏิรูปครั้งใหญ่ วันนี้ขอฝากถึงสภาฯ ขอให้ดำเนินการนำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อุ้มหาย และทรมานที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดทำเสร็จสิ้นเป็นปีแล้วมาใช้ เพราะหากเร่งดำเนินการจะทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ไม่ต้องได้รับการโดนอุ้มหรือถูกทรมานเพิ่มขึ้นเพราะกฎหมายนี้มีโทษรุนแรง

เมื่อถามว่า วานนี้ (25 ส.ค.) มีข้อมูลจากนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ในเรื่องการซ้อมรีดเอาข้อมูล ว่ามีการกระทำกันเป็นปกติอยู่แล้ว ทาง กมธ.กฎหมายฯ จะมีการเรียกมาให้ข้อมูลหรือไม่ นายสิระ กล่าวว่า ในวันที่ 2 ก.ย. นี้ จะมีการออกหนังสือเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงนายแพทย์ที่ออกใบรับรองแพทย์ของผู้ตายว่ามีการออกใบรับรองแพทย์ผิดหรือไม่ และมีการรับผลประโยชน์กันหรือไม่ และขอเรียกร้องไปที่รัฐบาล ซึ่ง กมธ.กฎหมายฯ ได้ยื่นเรื่องผ่านสภาฯ ไปแล้วเรื่องการแก้ไข ป.วิอาญาในการสอบสวน หากปล่อยพนักงานสอบสวนที่เป็นตำรวจทำการสอบสวนแต่ฝ่ายเดียว การได้ความยุติธรรมของประชาชนอาจจะไม่เพียงพอ จึงต้องมีการขอให้อัยการเข้ามาร่วมการสอบสวนตั้งแต่เบื้องต้น รวมทั้งจะมีการเชิญทนายที่ได้รับคลิปแต่ไม่ยอมส่งคลิปให้กับพนักงานสอบสวน ที่มีข่าวว่าไปเรียกเงินค่าคลิป 20 ล้านบาทกับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ มาสอบสวนว่าเพราะอะไรทำไมถึงถือไว้กับตัวเอง

เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่าไม่มีวัฒนธรรมในการซ้อมผู้ต้องหา นายสิระ กล่าวว่า “ผมไม่ฟังท่านหรอก ขนาดกดปุ่มยังผิดเลย แล้วมาแก้ไขมติทีหลัง ซึ่งท่านก็รู้กฎระเบียบข้อบังคับของสภา ผมจึงได้ส่งหนังสือฝากไปที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ให้ไปแก้ไขที่สภาโจ๊ก คิดว่าสิ่งที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ พูดค่อนข้างสับสน”.