เมื่อวันที่ 4 มี.ค. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมว่าผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี ประกอบด้วย เขต 1 นายเสวก ประเสริฐสุข เขต 2 นายนพดล ลัดดาแย้ม เขต 3 นายยุทธวัฒน์ หาญเกียรติกล้า เขต 4 นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง เขต 5 นายปรีชา ชื่นชนกพิบูล เขต 6 นายวิรัช พยุงวงษ์ และเขต 7 น.ส.กฤษณา วงศ์คำ เข้าร่วมสักการบูชาเซียนแปะโรงสี เพื่อความเป็นสิริมงคล และได้มีการพบปะประชาชน ณ ตลาดริมน้ำวัดศาลเจ้า ต.บ้านกลาง อ.เมืองปทุมธานี ท่ามกลางประชาชนให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี ทั้ง 7 เขต

นายชัยวุฒิ กล่าวว่า การลงพื้นที่ปทุมธานีในวันนี้ เป็นการพาผู้สมัครทุกเขต แนะนําตัว และนำนโยบายของพรรคมานำเสนอกับพี่น้องประชาชนที่ตลาดวัดศาลเจ้า เพื่อให้เกิดความมั่นใจ และความจริงใจของพรรค ในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องชาวปทุมธานี ถึงความตั้งใจของทีมงานพรรคพลังประชารัฐ จะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถและประสบการณ์ทั้งการเมืองท้องถิ่น เข้าใจความต้องการของพี่น้อง โดย ส.จ.ตุ้ย ว่าที่ผู้สมัครในเขตนี้ เป็นคนที่พี่น้องประชาชนรู้จักเป็นอย่างดีที่เป็น ส.จ. แล้วก็ลาออกมาลง ส.ส. ให้พรรคพลังประชารัฐ
นอกจาก ว่าที่ผู้สมัครปทุมฯ ยังมีหัวหน้าทีม ที่เป็นพี่ใหญ่และเป็นรองนายก อบจ. ที่มีประสบการณ์ มีความพร้อมที่จะทํางาน ซึ่งทีมงานทุกคนพร้อมและอยากเข้ามาช่วยกันพัฒนาปทุมธานี รวมถึงการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่ยังไม่รับการแก้ไข เพื่อพัฒนาปทุมธานีให้ดียิ่งขึ้นให้ได้แน่นอน เชื่อว่าสามารถยกจังหวัดได้ ถ้าเราทําการรณรงค์หาเสียงแล้วก็มีนโยบายต่างๆ ที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน สื่อไปถึงประชาชนให้เข้าใจให้ได้ทุกพื้นที่ ก็มีโอกาสที่จะชนะทุกเขต เพราะผู้สมัครของเราก็มีความพร้อมทุกคน ที่จะทํางานเพื่อประชาชน โดยจะชูนโยบายเรื่องโครงสร้างพื้นฐานการพัฒนาเมือง เรื่องของการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้การค้าขายดีขึ้น การท่องเที่ยวดีขึ้น

“การนำเสนอนโยบายพรรค ผ่านผู้สมัครที่จะลงพื้นด้วยตัวเอง และผ่านเครือข่ายทีมงาน เพื่อให้นโยบายถึงประชาชนทุกบ้าน เพื่อให้เข้าใจนโยบายของพรรคมากขึ้น อาจจะเป็นจุดอ่อนในรอบที่แล้ว ที่เราอาจจะลงพื้นที่น้อยไป หรือตัวผู้สมัครเราก็ไม่ได้มีพื้นฐานจากการเมืองท้องถิ่น ก็ทําให้ลงพื้นที่ได้ไม่ทั่วถึง รอบนี้พรรคพลังประชารัฐผู้สมัครส่วนใหญ่มาจากการเมืองท้องถิ่น เป็นอดีต ส.ส. เป็นอดีตรองนายก อบจ. อดีต ส.จ. เพราะฉะนั้นทุกคนก็จะมีพื้นฐานท้องถิ่น จะเข้าถึงชาวบ้าน ใกล้ชิด เข้าใจชาวบ้านได้ดีขึ้น”
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ เวลา 18.30-21.00 น. นายชัยวุฒิ จะควงคู่นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรค พร้อมผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี ทั้ง 7 เขต ขึ้นเวทีปราศรัย ณ สวนบริษัท เคเอสเอส อินเตอร์เทคกรุ๊ป ย่านคลองสาม ต.คูคต อ.ลำลูกกา เพื่อย้ำความมั่นใจว่า พรรคพลังประชารัฐพร้อมเดินหน้าพัฒนาปทุมธานีอย่างแท้จริงจากคนรุ่นใหม่

นอกจากนี้ นายชัยวุฒิ ได้กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ปราศรัยพาดพิง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่ จ.ขอนแก่น ว่าในสโลแกนก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ว่า พล.อ.ประวิตร กลับเป็นสาเหตุของความขัดแย้ง ตั้งแต่การสลายการชุมนุม การทํารัฐประหาร ว่า ประเด็นดังกล่าว อยากให้ทุกฝ่าย รวมถึงนายปิยะบุตร หรือบางคนที่จะยังจมอยู่กับอดีต กับเรื่องรัฐประหารหรือความขัดแย้งต่างๆ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาเกิน 8 ปีแล้ว บางเรื่องเป็นเรื่องที่เป็น 10 ปีแล้ว วันนี้ไม่ใช่เวลาพูดถึงอดีต แต่ควรพูดถึงอนาคตที่เราจะต้องก้าวข้ามมันไป เพื่อมาทํางานร่วมกัน สร้างสรรค์สิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ไม่ควรนำเอาเรื่องการเมืองความขัดแย้งมาเป็นตัวตั้ง

“อะไรที่ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่อยู่ฝ่ายตรงข้าม คุณก็จะคัดค้าน มันไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง ผมอยากให้เรามองที่ประชาชนเป็นศูนย์กลาง เรามาช่วยกันแก้ปัญหาให้ประชาชน เพื่อการก้าวข้ามความขัดแย้ง เราจะไม่ทะเลาะกันด้วยเรื่องที่ไร้เหตุผล ทุกเรื่องสามารถปรองดองกันได้ ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย ทุกคนมีสิทธิที่จะอยากจะอยู่กับใคร อยากจะทํางานร่วมกับใคร แต่ไม่ใช่หวังว่าคนอื่นเขาทํางานร่วมกันได้ แล้วคุณมองว่าคนที่เขาอยู่ร่วมกัน เป็นคนไม่ดี ถ้าคนอื่นเขาอยู่ร่วมกันได้ เป็นเสียงข้างมาก เขาปรองดองกันได้ ทํางานให้ประชาชนได้ ประเทศก็เดินไปข้างหน้า ถ้าไม่เห็นด้วย แต่เป็นเสียงข้างน้อย ต้องยอมรับกติกาตามประชาธิปไตย โดยให้การเลือกตั้งเป็นคําตอบ” นายชัยวุฒิ กล่าว