เมื่อวันที่ 5 มี.ค. มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก (ประเทศไทย) ร่วมมือกับ Avery Dennison ในโครงการ WE Achieve ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมอาชีพและทักษะชีวิตเยาวชนเพื่อเสริมสร้างความสมานฉันท์ชายแดนใต้ (USAID Achieve) ที่สนับสนุนโดยองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 ได้ร่วมกันส่งเสริมอาชีพและทักษะชีวิตแก่เยาวชนหญิงในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อเยียวยาความเสี่ยงจากผลกระทบทางเศรษฐกิจของโควิด-19

น.ส.ลัดดา นิเงาะ เจ้าหน้าที่โครงการฝึกอาชีพ มูลนิธิช่วยเหลือเด็ก (ประเทศไทย) ได้ยก 4 กรณีตัวอย่างเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการจนนำไปสู่การสร้างอาชีพและต่อยอดเป้าหมาย ว่า ฮัซนี อาแว และอักรัน สาแม คู่สามี-ภรรยา หนุ่มสาว ได้เรียนด้านการตัดเย็บและทักษะชีวิตด้านอื่นๆ เช่น การออมเงิน และการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งเป็นทักษะที่รวมอยู่ในหลักสูตรของโครงการ ส่วน คอดีเยาะห์ ฮะซา คุณแม่วัย 25 ปี ได้เข้าร่วมโครงการในสาขาอาหารและการบริการ โดยนำความรู้ที่ได้จากห้องเรียนมาทดลองทำซาโมซา ส่งขายโรงเรียนในชุมชน สถานที่ราชการใกล้เคียง และฝากขายตามร้านต่าง ๆ แม้รายได้จะยังไม่มาก แต่ก็นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เช่นเดียวกับ นูรีฮัน หะ เข้าร่วมในโครงการ สาขาอาหารและการบริการ เหลังเรียนจบ ได้ขายบราวนี่ออนไลน์ ทำคัพเค้กให้งานแต่งงาน รวมถึงรับออร์เดอร์ขนมจากเพื่อนและคนรู้จักในอนาคต และฝันที่จะมีร้านขนมเป็นของตัวเอง โดยแผนธุรกิจของเธอได้รับเลือกให้รับเงินทุนสนับสนุนจากโครงการให้นำไปต่อยอดธุรกิจ

รายงานข่าวแจ้งว่า รายงานหลายฉบับชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงมีความเสี่ยงต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจของโควิด-19 มากกว่าผู้ชายถึง 1.8 เท่า (McKinsey, 2020) เนื่องจากมีอัตราการว่างงานที่สูงกว่า และมีภาระที่เพิ่มขึ้นจากการต้องดูแลลูกและทำงานบ้าน ผลจากการวิจัยตลาดปัตตานี โดยมูลนิธิช่วยเหลือเด็ก (ประเทศไทย) ที่จัดทำขึ้นในปี พ.ศ. 2563 พบว่าประชากร 160,195 คนไม่ได้อยู่ในตลาดแรงงานเพราะกำลังเรียนหนังสือมีหน้าที่ทำงานบ้าน หรืออื่นๆ โดยจาก 54,024 คนที่ให้เหตุผลว่าต้องดูแลครอบครัว 99% (53,356 คน) เป็นผู้หญิง และมีเพียง 1% (668 คน) ที่เป็นผู้ชาย นอกจากนี้ มีผู้หญิงเพียง 53% เท่านั้นที่สามารถหางานได้ เทียบกับ 76% ของผู้ชายใน จ.ปัตตานี.