เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 5 มี.ค. ที่ จ.บุรีรัมย์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวถึงบรรยากาศการลงพื้นที่หาเสียงจ.บุรีรัมย์ ว่ารู้สึกใจชื้นและขอเป็นตัวแทนพรรค พท. ขอบคุณพี่น้องชาวบุรีรัมย์ที่มากันเยอะมาก และไม่ลุกออกจากที่นั่งเลยจนจบ ถึงแม้จะเป็นเวลาเที่ยงก็ยังแน่นเหมือนเดิม

เมื่อถามถึง นโยบายยาเสพติด จะนำมาใช้ในการชิงคะแนนเสียงจากพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นโยบายยาเสพติดพรรค พท. เป็นนโยบายระดับประเทศ แต่ในบุรีรัมย์เราได้ทำการศึกษาพื้นที่แล้วพบว่าเป็นจังหวัดที่ยาเสพติดเยอะมาก จึงต้องนำเอานโยบายที่มาใช้ เพื่อแสดงให้เห็นว่าเรามีแนวทางแก้ไขปัญหาให้ประชาชนและลูกหลานจริง ๆ ส่วนการตั้งข้อสังเกตจากผู้สนับสนุนพรรคที่มองว่า เวทีบุรีรัมย์การปราศรัยเข้มข้นนั้น น.ส.แพทองธาร หัวเราะก่อนถามกลับว่า “ดุเดือดไหม เวทีอื่นเป็นยังไง เราก็เต็มที่”

ต่อข้อถามว่า จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นพื้นที่สำคัญของพรรคภูมิใจไทย เราจะปักธงทั้งจังหวัดใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ทุกพื้นที่สำคัญ การแลนด์สไลด์จะอาศัยเพียงพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งไม่ได้ ทุกพื้นที่สำคัญมาก ไม่ว่าคนจะมองว่าพื้นที่นั้นเราจะแพ้หรือชนะก็เดินหน้าเสนอนโยบายให้ประชาชนตัดสินใจต่อ

เมื่อถามถึง ความคาดหวังจำนวน ส.ส.ในบุรีรัมย์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย กล่าวว่า จากการเลือกตั้งปี 54 เราได้ 2 ที่นั่ง “มาวันนี้ก็ไม่น่าจะต่ำกว่านั้นครับ”

ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรค พท. กล่าวเสริมว่า อยู่ที่ความไว้วางใจของประชาชน ซึ่งกระแสของพรรคดีขึ้นเรื่อย ๆ ฉะนั้น ขอไม่คำนวนตัวเลข แต่มั่นใจว่าประชาชนอยากออกจากวิกฤติ นี่คือคำตอบในคูหาเลือกตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามถึง หลักการการบุกรุกที่ดินเขากระโดง กรณีการทุจริตรถไฟฟ้าสายสีส้ม ไปจนถึงกรณีการซุกหุ้น จะถูกหยิบยกมาใช้ในการปราศรัยด้วยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เราชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่า พฤติการณ์ของกลุ่มการเมืองหรือนักการเมืองที่เข้าไปทำหน้าที่เพื่อประชาชนนั้น เกิดผลกระทบต่อประชาชนอย่างไร อย่างกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ที่เห็นว่าไม่ชอบในการซุกหรือถือหุ้นอยู่ ศาลก็รับคำร้องและสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีผลการพิจารณาเรื่องการดำเนินการตามมาตรา 144 นำงบประมานไปใช้ทางตรงหรืออ้อมในฐานะกรรมาธิการกำลังจะตามมาอีก สิ่งเหล่านี้ต้องทำความจริงให้ปรากฏจงได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวถึงผลสำรวจความนิยมในพื้นที่ จ.สงขลา เรื่องตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นรองพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ส่วนความนิยมพรรค พท. เป็นรองพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า รู้สึกดีใจมาก ได้มีโอกาสอยู่ในใจของพี่น้องชาวใต้ ขอย้ำว่าการลงพื้นที่ทุกครั้งทุกพื้นสำคัญกับพรรค พท. และเมื่อโพลผลสำรวจที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น แต่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความนิยมของพรรค พท. แน่นอนว่าทำให้พรรค พท.มีกำลังใจมากขึ้นเยอะ

เมื่อถามว่า จะมีโอกาสไปลงพื้นที่เพื่อย้ำฐานเสียงความนิยมของพรรค พท.ในภาคใต้หรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวติดตลกว่า ตารางการลงพื้นที่หาเสียงอยู่ไหน

ทางด้าน นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท. กล่าวเสริมว่า ภาคใต้ก็มีกำหนดการที่จะลงพื้นที่อยู่

ขณะที่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ผลสำรวจดังกล่าวเป็นผลสำเร็จในเบื้องต้น ภาพรวมพรรคเป็นรองพรรค ปชป. ส่วนแคนดิเดตนายกฯ แม้จะเป็นที่ 2 เชื่อว่าพรรค พท.จะได้ตำแหน่งนายกจริง ๆ จึงไม่ได้ห่วงอะไร เพราะถือว่าขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ก็ถือว่า พรรค พท.ชนะ เนื่องจากที่สงขลา พรรค พท. เพิ่งจะทำพื้นที่ แต่ยังไม่ได้จัดปราศรัย

เมื่อถามถึง ที่ผ่านมาพรรคก้าวไกล มีปัญหาในการทำงานกับพรรค พท.แต่กลับประกาศว่าจะร่วมรัฐบาลกับพรรค พท. มีโอกาสเป็นไปได้หรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ยังไม่อยากกล่าวถึงการจับมือทางการเมืองก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะเราเคารพอำนาจของประชาชน และมั่นใจว่าหากพรรค พท.แลนด์สไลด์ ได้เสียงมากพอจะทำให้การพิจารณาร่วมมือกับพรรคการเมืองใด จะเป็นข้อพิจารณาตัดสินใจที่ง่ายขึ้น.