เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยพร้อมด้วย ดร.วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย เป็นประธานพิธีทำบุญตักบาตรเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2566 โดยมี นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาชุมชนและส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น นายพรพจน์ เพ็ญพาส รองปลัดกระทรวงมหาดไทย หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านกิจการความมั่นคงภายใน นายสมคิด จันทมฤก รองปลัดกระทรวงมหาดไทยด้านบริหาร นายชยาวุธ จันทร อธิบดีกรมที่ดิน นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ อธิบดีกรมการปกครอง นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน นายขจร ศรีชวโนทัย อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น คณะผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงมหาดไทย นางจิรวรรณ เพ็ญพาส นางจิณณารัชช์ สัมพันธรัตน์ อุปนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นางอรจิรา ศิริมงคล ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดนครราชสีมา คณะกรรมการบริหารสมาคมแม่บ้านมหาดไทยหัวหน้าหน่วยงาน ข้าราชการ พนักงาน เจ้าหน้าที่ และภาคีเครือข่าย กว่า 300 คน ร่วมในพิธีโดยได้รับเมตตาจาก เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ เลขานุการสมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม นำคณะสงฆ์ จำนวน 20 รูป รับบิณฑบาต

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า เนื่องในวันมาฆบูชา 6 มี.ค. 2566 เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามโปรดเมตตาประทานพระคติธรรม ความว่า “ดิถีมาฆบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้วดิถีเช่นนี้ชวนให้พุทธบริษัททุกหมู่เหล่ารำลึกถึงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงโอวาทปาติโมกข์ ประทานแก่พระอรหันตสาวก 1,250 รูป ซึ่งล้วนอุปสมบทโดยวิธีเอหิภิกขุ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ณ ดิถีเพ็ญเดือน 3 อย่างไรก็ดี หากปีใดเป็นปีอธิกมาส วันมาฆบูชาจะตรงกับดิถีเพ็ญเดือน 4 ดังเช่นที่เกิดขึ้นในปีนี้ โดยสารัตถะประการหนึ่งในโอวาทปาติโมกข์นั้นคือ การไม่ทำบาปทั้งปวง อันเป็นหัวใจพระศาสนาประการต้นที่พุทธบริษัททั่วหน้าพึงยึดถือเป็นหลักประพฤติให้ได้ ก่อนจะก้าวไปสู่การบำเพ็ญความดีและการชำระใจให้บริสุทธิ์บาปทั้งปวงตามหลักพระพุทธศาสนานั้น ประมวลอยู่ในอกุศลกรรมบถ 10 ประการ จำแนกเป็นกายกรรม 3 กล่าวคือการฆ่า การเอาของที่เจ้าของไม่ได้ให้ และการประพฤติผิดในกาม วจีกรรม 4 กล่าวคือ คำโกหก คำส่อเสียด คำหยาบคาย คำเพ้อเจ้อ และ มโนกรรม 3 กล่าวคือการเพ่งเล็งอยากได้ของเขา การคิดปองร้ายผู้อื่น และความเห็นผิด ครั้นเมื่อได้กระทำกรรมใดกรรมหนึ่งในอกุศลกรรมบถ 10 จึงถูกจัดว่าเป็นบาป “พุทธศาสนิกชนจึงมีหน้าที่ลด ละ และเลิกการกระทำบาปทั้งปวงแม้เล็กน้อย ซึ่งล้วนให้ผลเป็นความทุกข์ทำให้จิตใจเสื่อมคุณภาพ ยังอุปนิสัยให้กลายเป็นคนถนัดทำชั่ว จนท่วมท้นไปด้วยบาป ดั่งพระพุทธพจน์ที่ว่า อุทพินฺทุนิปาเตน อุทกุมฺโภปิ ปูรติ อาปูรติ พาโล ปาปสฺส โถกํ โถกํปิ อาจินํ. แปลความว่า “แม้หม้อน้ำยังเต็มด้วยหยาดน้ำฉันใด,  คนเขลาสั่งสมบาปแม้ทีละน้อยๆ ก็เต็มด้วยบาปฉันนั้น.” ด้วยเหตุนี้ ทุกท่านพึงขวนขวายบริจาคทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา อันเป็นบุญที่เป็นชื่อของความสุข ขอให้เชื่อมั่นว่าบาปที่ทำลงแล้ว จะอำนวยผลดีไม่ได้ และในขณะเดียวกัน บุญที่ทำลงแล้ว จะอำนวยผลร้ายก็ไม่ได้เช่นกัน เมื่อมั่นใจในหลักของการกระทำแล้ว ย่อมจะมีกำลังใจมุ่งมั่น ไม่ท้อถอยต่อการบำเพ็ญคุณงามความดีต่อไป ผลแห่งบุญทั้งปวงย่อมจะตามเยียวยาแก้ไขปัญหาพิทักษ์รักษา และดลบันดาลความสุขความเจริญมาสู่ผู้สั่งสมบุญไว้ดีแล้วอย่างแน่แท้ ขอพระสัทธรรมของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จงดำรงมั่นคงอยู่ในโลกนี้ตลอดกาลนาน และขอพุทธบริษัททั้งหลายจงพร้อมเพรียงกันศึกษาพระสัทธรรมนั้น เพื่อบรรลุถึงความรุ่งเรืองไพบูลย์ยิ่ง ๆ ขึ้นสืบไป เทอญ.”

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันมาฆบูชาประจำปี 2566 วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามกำหนดจัดพิธี โดยในวันที่ 6 มี.ค. 2566 เวลา 09.30 น. พระสงฆ์ทำวัตรเช้า เวลา 10.00 น. พระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา 1 กัณฑ์ เวลา 19.00 น. พระสงฆ์ทำวัตรเย็น สวดโอวาทปาฏิโมกข์พุทธศาสนิกชนเวียนเทียนถวายเป็นพุทธบูชา และพระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา 13 กัณฑ์ จากนั้นย่ำรุ่งของวันที่ 7 มี.ค. 2566 เวลา 06.30 น. เป็นการถวายภัตตาหารเช้าแด่พระสงฆ์ 30 รูปโดยพุทธศาสนิกชนทุกท่านสามารถติดตามชมการถ่ายทอดสดกิจกรรมวันวิสาขบูชาได้ทางเพจเฟซบุ๊ก “สมโภช 150 ปี วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม”

“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน พุทธศาสนิกชนทุกท่านลด ละ เลิกการทำบาปทั้งปวง ทำความดีและชำระใจให้บริสุทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต โดยทุกท่านสามารถร่วมพิธีเนื่องในวันมาฆบูชา ประจำปี 2566 ซึ่งท่านผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด และท่านนายอำเภอทั้ง 878 อำเภอ และภาคีเครือข่าย ได้รับเมตตาจากคณะสงฆ์ จัดพิธีในทุกวัดทั่วประเทศ กระทรวงมหาดไทย ขออนุโมทนากับทุกท่านมา ณ โอกาสนี้” นายสุทธิพงษ์ กล่าว.