เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่พรรคก้าวไกล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะผู้ดูแลการเลือกตั้ง กทม. พร้อมด้วย นายรังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ร่วมแถลงเปิดตัว นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ หรือ แบงค์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตจตุจักร กทม. พรรคก้าวไกล

นายพิจารณ์ กล่าวว่า ปัจจุบันคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังอยู่ในช่วงการรับฟังความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการแบ่งเขต ซึ่งไม่ว่าการแบ่งเขตจะออกมาในรูปแบบใด อาจสร้างความได้เปรียบเสียเปรียบแก่บางพรรคการเมือง แต่พรรคก้าวไกลไม่มีความหนักใจ ยืนยันจะสู้ในทุกสนาม เพราะเราเชื่อในการเมืองที่ไม่ได้อาศัยหัวคะแนนหรือระบบอุปถัมภ์เพื่อสร้างบุญคุณกับพี่น้องประชาชน แต่พรรคก้าวไกลยึดหลักการและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะในสภาหรือนอกสภา จะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หรือ ส.ส.เขต พรรคก้าวไกลพิสูจน์แล้วว่าแม้เป็นพรรคร่วมฝ่ายค้าน ก็ผลักดันกฎหมายหรือตรวจสอบรัฐบาลได้อย่างเข้มข้น หากเราได้มีอำนาจบริหารและเป็นรัฐบาล ก็พร้อมจะเปลี่ยนแปลงประเทศไทยในอีก 4 ปี

“ดังนั้น ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะใช้กลเม็ดใดในการแบ่งเขต เชื่อว่าพี่น้องชาว กทม. จะไว้วางใจมอบคะแนนเสียงให้พรรคก้าวไกล และเชื่อว่าจะแลนด์สไลด์ใน กทม. ได้สำเร็จ โดยวันนี้ ขอแนะนำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.คนใหม่ ที่จะทำให้พรรคก้าวไกลมีว่าที่ผู้สมัครครบทุกเขตใน กทม. นั่นคือ ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ หรือ แบงค์” นายพิจารณ์ กล่าว

ด้าน นายศุภณัฐ กล่าวถึงเหตุผลที่ตัดสินใจร่วมงานกับพรรคก้าวไกล ว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่เห็นความเหลื่อมล้ำและความล้าหลังของประเทศ จากการบริหารที่ย่ำแย่ของรัฐบาลยุคปัจจุบัน การเลือกตั้งรอบนี้ ถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อว่าจะอยู่กับการเมืองแบบอดีต อยู่กับ 3 ป. หรือจะสร้างการเมืองแบบใหม่ที่ดีกว่าเดิม สำหรับตนแล้ว พรรคก้าวไกล คือ คำตอบของประเทศ จึงอาสาเข้ามาขับเคลื่อนนโยบายพรรคเพื่อประชาชนทุกคน

“เหตุผลว่าทำไมผมถึงเลือกทำงานกับพรรคก้าวไกล เพราะ 4 ปีที่ผ่านมา พรรคก้าวไกลได้พิสูจน์บทบาทในสภาได้อย่างเด่นชัดที่สุด ว่ากำลังต่อสู้กับระบอบอุปถัมภ์ ทุนผูกขาด” นายศุภณัฐ กล่าว

ด้าน นายรังสิมันต์ กล่าวถึงการหาเสียงของพรรคก้าวไกลในช่วงที่ผ่านมาว่า ตลอดสัปดาห์ที่แล้ว แกนนำสำคัญของพรรคก้าวไกลลงพื้นที่หาเสียงในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน คือ ร้อยเอ็ด ขอนแก่น อุดรธานี ได้รับการตอบรับดีมากจากประชาชน พี่น้องชาวอีสานเชื่อว่าพรรคก้าวไกลจะสร้างความเปลี่ยนแปลงในสังคมไทยได้อย่างแท้จริง และเชื่อว่านายพิธา จะเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งความเปลี่ยนแปลง ที่ไม่พาประเทศไทยกลับไปสู่จุดเดิม

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า โดยนอกจากการเปิดตัวแกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ อย่าง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ปิยบุตร แสงกนกกุล และพรรณิการ์ วานิช เป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกลแล้ว ในพื้นที่อื่น ๆ ก็มีแกนนำพรรคลงพื้นที่เช่นกัน เช่นตนลงพื้นที่ภาคใต้ที่จ.นครศรีธรรมราชและชุมพร มีประชาชนภาคใต้สะท้อนว่าต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงเพราะที่ผ่านมาเลือกกี่ครั้งก็ได้ผลเหมือนเดิม รู้สึกเบื่อหน่ายการเมืองแบบอดีต ดังนั้นเชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงคงไม่พัดไปที่ภาคอีสานเท่านั้น แต่ที่ภาคใต้ ก็จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วย

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนสัปดาห์นี้ แกนนำพรรคก้าวไกลจะลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 11-12 มี.ค.นี้ นายพิธา จะเดินสายลงพื้นที่ภาคใต้และเปิดตัวนโยบายสุขภาพที่ จ.นครศรีธรรมราช กระบี่ และภูเก็ต และในวันที่ 12 มี.ค. จะเปิดตัวนโยบายและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ครบทั้ง 33 เขต สำหรับสถานที่และเวลาจะแจ้งให้ทราบต่อไป.