การหาเสียงก็คือการแย่งคะแนนกัน วิธีหนึ่งที่ถูกนำมาใช้คือการ “บ่อนทำลาย” แม้กระทั่งคนเคยเป็นขั้วเดียวกันก็ทำกันได้ เพราะอย่างว่า เรื่องผลประโยชน์มันหอมหวาน และเลือกตั้งเสร็จโน่น ถึงค่อยเปิดดีลใหม่กันว่าใครจะรวมกับใคร ตอนนี้โฉมหน้าเรื่องใครดีลกับใครยังไม่ออกมาชัดเจน แต่ใกล้ๆ มันจะต้องเห็นภาพแบ่งสองขั้วชัดขึ้น

พรรคที่ตอนนี้โดนเป็นตำบลกระสุนตก คือพรรคภูมิใจไทย ที่นำโดย “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรค โดนรุมสกัดเรื่องผ่านกฎหมายกัญชา กัญชง แม้จะอธิบายปากเปียกปากแฉะว่า “มันไม่ใช่กฎหมายส่งเสริมสูบกัญชาเสรี แต่เพื่อการแพทย์ ถ้านอกจากวัตถุประสงค์นี้มีโทษ” ก็เหมือนไม่ค่อยฟังกัน

ซึ่งถ้าพรรคภูมิใจไทยไม่ได้กลับมาเป็นรัฐบาลเที่ยวหน้า ก็ไม่ทราบว่าจะส่งผลกระทบกับผู้ที่ทำธุรกิจปลูกกัญชา หรือปลูกกัญชาตามบ้านอยู่ตอนนี้ขนาดไหน ก็คงจะมีจำนวนเยอะอยู่ เพราะมีการอ้างตัวเลขผู้ลงทะเบียนขอปลูกจากแอปพลิเคชัน “ปลูกกัญ” ก็หลักแสน จะให้เขาทำลายก็คงชดเชย ปลูกกัญชาลงทุนเยอะโดยเฉพาะปุ๋ย

ตอนนี้อยู่ๆ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็ออกมาฟาดพรรคภูมิใจไทยรัวๆ ซึ่งก็มีหลายความคิดว่า นายชูวิทย์ออกมาทำแบบนี้ทำไม? บ้างก็ว่าไปถึง พรรครวมไทยสร้างชาติ ( รทสช.) อยู่เบื้องหลัง เพราะเที่ยวนี้ดูเหมือนคู่แข่งสำคัญของ รทสช. คือภูมิใจไทย เนื่องจากหวังฐานคะแนนเดียวกันคือภาคใต้ (และฐานเสียงในกลุ่มผู้สนับสนุนพรรครัฐบาลชุดนี้)

แต่หลายคนก็ไม่คิดว่าจะทุบกันด้วยวิธีนั้น เพราะพรรค รทสช. เป็นพรรคเกิดใหม่ และยังไม่รู้ว่า ส.ส. จะได้ตามเป้าหรือไม่ เพราะอาศัยกินบุญเก่าบิ๊กตู่ และ “บ้านใหญ่” บางจังหวัดที่ไปดูดมาได้ ขณะที่ภูมิใจไทยมีโอกาสได้ ส.ส. มากกว่า มีท่าทีที่ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์กับบิ๊กตู่มากนัก รทสช. จึงอาจหวังเสียงภูมิใจไทยมาจับมือเป็นกำลังสำคัญ

แล้วภูมิใจไทยถูกตีเพราะอะไร? อาจมีใคร “เสียผลประโยชน์” จากนโยบายพรรคอยู่เบื้องหลังก็ได้ เช่นเรื่องกัญชา หรือเรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม..ซึ่งไม่นาน ความจริงก็คงจะออกมา บางทีคนเบื้องหลังอาจไม่ใช่พวกฝ่ายการเมืองก็ได้ ใครจะรู้ ..มรสุมอีกลูกก็เข้าภูมิใจไทยคือเรื่อง นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ เกี่ยวกับคดีหุ้น

ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์นั้น ไม่ต้องเป็นศึกนอก แค่ศึกคนเคยรักก็อ่วม.. เลือดไหลออกจากพรรคนี้ไม่หยุด และถึงขนาดที่อดีต “ตัวใหญ่” ในพรรค อย่าง นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี และ นายชุมพล กาญจนะ ที่ออกไปอยู่ รทสช. เองออกมาโจมตีกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ที่นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ แนวๆ “พรรคมันเละเพราะใคร”

กองเชียร์ประชาธิปัตย์อาจบอกว่าโทษมั่วไปเรื่อย คนที่มั่นคงต่อพรรคก็ยังอ้างอุดมการณ์พรรคไม่เปลี่ยน ..ดูๆ ไปเหมือนจะมีแค่ น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม ที่ย้ายไป รทสช. ที่ดูจะ “แมนๆ” ซื่อตรงกับตัวเอง โดยการกล้าพูดเลยว่า “อยู่ประชาธิปัตย์กระแสไม่ดีเหมือนเก่า (อยากชนะเลือกตั้ง) ก็เลยต้องย้ายพรรค”

กรณีประชาธิปัตย์โดน ก็เพราะเรื่องหวังแย่งฐานเสียงกับพรรค รทสช. นั่นแหละ แต่ถ้าเป็นภาคใต้ ภูมิใจไทยก็สู้ไม่ถอยเหมือนกัน กลายเป็นเรื่องน่าตลกที่มะรุมมะตุ้มจะชิงภาคใต้กันให้ได้ เพราะเหนือกะอีสานดูจะเจาะยางพรรคฝ่ายค้านชุดปัจจุบันอย่างเพื่อไทยไม่ได้ ก้าวไกลและเสรีรวมไทย ก็กระแสดีท่ามกลางความต้องการเปลี่ยน

ลอยตัวสุดคือพลังประชารัฐ (พปชร.) สุดท้ายน่ารอดูว่า จะมีดีลไปร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทยจริงตามข่าวลือหรือไม่.