เมื่อวันที่ 8 มี.ค. นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เป็นประธานเปิดงานวันสตรีสากล ปี 2566 ภายใต้แนวคิด “แรงงานสตรี สร้างความเสมอภาคและการทำงานที่มีคุณค่า” เพื่อรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนของสังคมตระหนักถึงความสำคัญของสตรีทำงาน สนับสนุน ส่งเสริมให้สตรีทำงานได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ยกระดับคุณภาพชีวิต พร้อมมีความสุขในการทำงาน โดยพิธีมอบโล่รางวัลสตรีทำงานดีเด่น ประจำปี 2566 เพื่อยกย่อง เชิดชูเกียรติสตรีทำงานดีเด่นในการเป็นแบบอย่างที่ดี จำนวน 31 คน จาก 8 ประเภทรางวัล อาทิ น.ส.ฉวีวรรณ อุทัยพิบูลย์ รองผู้ว่าการ (แผนและพัฒนา) การประปานครหลวง นางวันเพ็ญ บุรีสูงเนิน รองศึกษาธิการภาค 6 ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค 9 สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ประเภทสตรีนักบริหารดีเด่น น.ส.เขมนิจ จามิกรณ์ ประเภทศิลปินสตรีดีเด่น นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) ประเภทสื่อมวลชนสตรีดีเด่น น.ส.ทองพูล บัวศรี ผู้จัดการโครงการครูข้างถนน/โครงการโรงเรียนเด็กก่อสร้างเคลื่อนที่ มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก ประเภทสตรีองค์กรพัฒนาเอกชนดีเด่น

นายสุชาติ กล่าวตอนหนึ่งว่า บทบาทของสตรีในประเทศไทยนั้น ได้เพิ่มขึ้นมากกว่าในอดีตอย่างมากทั้งในระดับผู้บริหารและระดับปฏิบัติ และยังพบว่า ผู้หญิงได้รับการยอมรับมากขึ้นในแวดวงธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งกระทรวงแรงงานก็ตระหนักถึงสตรีทำงานทุกคนว่าเป็นกำลังสำคัญของชาติ เห็นได้ชัดจนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา สตรีก็เป็นหนึ่งในผู้ที่มีบทบาทในการช่วยยับยั้งการแพร่ระบาดตามแต่ละพื้นที่ต่าง ๆ จนทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
นอกจากนี้ บทบาทสตรียังช่วยสร้างสรรค์สังคม ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้า กระทรวงแรงงาน จึงได้มุ่งมั่นที่จะส่งเสริมให้แรงงานสตรีได้รับการคุ้มครองสิทธิเท่าเทียมกัน โดยไม่เลือกปฏิบัติ มีความมั่นคง และมีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมทั้งผลักดันให้มีการแก้กฎหมายให้สตรีมีครรภ์สามารถใช้สิทธิลาเพื่อคลอดบุตรโดยได้รับค่าจ้าง 98 วัน เพิ่มวงเงินสงเคราะห์บุตรจาก 600 บาท เป็น 800 บาท และตรวจสุขภาพเชิงรุกให้แรงงานสตรี ตลอดจนร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการส่งเสริม สนับสนุนบทบาทสตรี และความเสมอภาคชายหญิง ซึ่งจะเป็นกลไกที่สำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ขอยืนยันอีกครั้งว่า สตรีเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอย่างแท้จริง.