นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.วันที่ 14 มี.ค.นี้ กระทรวงฯ จะเสนอวาระแห่งชาติเรื่องฟื้นประเทศด้วยท่องเที่ยวระยะ 5 ปี ปี 66-70 ให้ที่ประชุมพิจารณา เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสู่การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพและยั่งยืนพร้อมกับตั้งเป้าหมายเพิ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ถึง 60 ล้านคนและสร้างรายได้เข้าประเทศปีละ 6 ล้านล้านบาท  หรือคิดเป็น 25% ของจีดีพี ภายในปี 70

“สภาพัฒน์  มอบโจทย์ให้กับกระทรวงท่องเที่ยวที่ท้าทายมาก โดยปีนี้คาดว่าจะมีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามา 25 ถึง 30 ล้านคนและสร้างรายได้ประมาณ 2.4 ล้านล้านบาท และในปี 70 ต้องทำรายได้ที่ 6 ล้านล้าน  แต่ขณะเดียวกัน เราจำเป็นต้องรักษาคุณภาพทางการท่องเที่ยวควบคู่กันไปด้วย เพื่อ ไม่ให้เกิดความแออัด ตลอดจนต้องสรรหานักท่องเที่ยวที่เข้ามาโดยที่ไม่ต้องใช้ปริมาณ ซึ่งจุดนี้ต้องหาความสมดุล”

สำหรับวาระแห่งชาติเรื่องฟื้นประเทศด้วยท่องเที่ยว จะเป็นนโยบายสำคัญของพรรคด้วยซึ่งประกอบด้วย 3 แนวทาง ได้แก่ 1.พร้อมรับ 2.พัฒนา และ 3.พลิกโฉมประเทศไทย โดยในส่วนการพร้อมรับปี 2566-2567 จะทำเรื่องที่เราหยุดไป 2 ปี การเตรีมความพร้อม สะอาดปลอดภัย เป็นธรรม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยชูเรื่องความพร้อมของประเทศคนที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี ประเพณีที่สวยงาม ต้อนรับนักท่องเที่ยว 2.การพัฒนา ปี 2566-2568 จะเน้น การพัฒนาท่องเที่ยว และมีการต่อยอดต่อไปจะทำในกระทวงวัฒนธรรมและกระทรวงมหาดไทยสร้างการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวในภูมิภาคต่าง ๆ 

 3.การพลิกโฉม ปี 2566-2570 เดินหน้า สู่การท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นเทรนของโลกในปัจจุบัน มีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ต่ำ เช่น ที่จังหวัดพังงา ทำให้เสร็จในปี 68 เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ปราศจากคาร์บอน 100 % หรือจังหวัดกระบี่ เป็นน้ำพุร้อนน้ำเค็มที่ดีที่สุดในโลก และการผลักดันจังหวัดภูเก็ต เป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมระดับโลก เอ็กซ์โป 2028 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการดูแลสุขภาพ

“เมื่อ 3 องค์ประกอบเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่เรานำมาจะเดินไปพร้อมกับนโยบาย บีซีจึ ซึ่งตรงนี้ ต้องนำไปผนวกรวมกันเพื่อผลักดันการท่องเที่ยว และจะนำไปประชาสัมพันธ์ ในส่วนท่องเที่ยวของไทยต้องดีกว่า”