สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 ส.ค.ว่าสำนักงานผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ( โอดีเอ็นไอ ) เผยแพร่รายงาน "ส่วนที่สามารถเปิดเผยได้" เกี่ยวกับการตรวจสอบ "แหล่งกำเนิดแท้จริง" ของโรคโควิด-19 มีเนื้อหาสำคัญว่า จีนยังคงขัดขวางการสอบสวนระดับนานาชาติ ยืนกรานไม่แบ่งปันข้อมูลสำคัญ และยังคงกล่าวโทษหลายประเทศ "โดยเฉพาะสหรัฐ" ส่งผลให้ความพยายามของทุกฝ่ายที่ผ่านมา ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ เนื่องจากขาดความร่วมมือจากรัฐบาลปักกิ่ง 

อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวกรองของสหรัฐเชื่อว่า คณะผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน ไม่ทราบเรื่องเชื้อไวรัสโคโรนามาก่อน จนกระทั่งเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างครั้งแรก ที่เมืองอู่ฮั่น เมื่อปลายปี 2562
https://twitter.com/AP/status/1431349754903007233
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง 4 คนของประชาคมข่าวกรองสหรัฐ ให้ความเห็นว่า "มีความเป็นไปได้น้อยมาก" ที่เชื้อไวรัสโคโรนาแพร่จากสัตว์สู่มนุษย์ ส่วนผู้เชี่ยวชาญอีกคนหนึ่ง "มีความเชื่อมั่นในระดับกลาง" ว่าเชื้อไวรัสโคโรนาหลุดออกมาจากห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ บ่งชี้ว่า ในความเป็นจริงแล้ว หน่วยข่าวกรองของรัฐบาลวอชิงตันยังคงมีความเห็นไม่สอดคล้องกันในหลายประเด็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่างไรก็ดี ทุกฝ่ายเห็นพ้องไปในทางเดียวกันว่า เชื้อไวรัสโคโรนา "คืออาวุธชีวภาพ" และยังไม่พบหลักฐานที่มีน้ำหนัก ว่าเชื้อไวรัสตัวนี้มาจากการตัดต่อทางพันธุกรรม
https://twitter.com/MFA_China/status/1430181196051460110
ต่อมาสถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงวอชิงตันออกแถลงการณ์ว่า "ประเทศที่พัฒนาแล้วและมีความรับผิดชอบจะไม่กล่าวโทษผู้อื่นโดยปราศจากหลักฐาน" และวิจารณ์รายงานของโอดีเอ็นไอ "สร้างเสริมเติมแต่ง" พร้อมทั้งหยิบยกการที่รัฐบาลวอชิงตันเคยกล่าวหาว่า อิรักครอบครอง "อาวุธชีวภาพ" ขึ้นมาเปรียบเทียบด้วย และเรียกร้องการตรวจสอบศูนย์บัญชาการฟอร์ต ดีทริก ในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งเคยเป็นห้องปฏิบัติการด้านอาวุธชีวภาพของสหรัฐ ระหว่างปลายสงครามโลกครั้งที่สองจนถึงกลางยุคสงครามเย็น.

เครดิตภาพ : AP