เมื่อวันที่ 15 มี.ค. นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า เช้าวันนี้ตนได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS ถึง รมว.มหาดไทย และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งระบบ มีการได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานจากรัฐมนตรี ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 โดยถูกต้องครบถ้วน หรือไม่ หากไม่มี จะถือว่าสัญญาหรือนิติกรรมใดๆ เป็นโมฆะ ตามความใน ป.พ.พ. มาตรา 115 หรือไม่ จะต้องระงับหรือยกเลิกสัญญาที่เกี่ยวข้องหรือไม่
เนื่องจาก ป.ป.ช. ได้มีมติให้แจ้งข้อกล่าวหาบุคคลที่เกี่ยวข้องรวม 13 ราย ตามข่าวที่ปรากฏโดยทั่วไปแล้วนั้น จึงประเด็นของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ต้องกลับมาพิจารณาว่า โครงการดังกล่าวได้ดำเนินการตามกฎหมาย คือประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 ให้ถูกต้องครบถ้วนแล้ว หรือไม่ จากข้อเท็จจริงที่ปรากฏยังมีปัญหาโต้แย้งว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว อาจไม่ได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานจากรัฐมนตรี ตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 58 โดยถูกต้องครบถ้วนทั้งหมด หากไม่มีการได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานอย่างถูกต้องครบถ้วน อาจจะมีปัญหาตามมาได้
นายเรืองไกร กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ทำให้ต้องย้อนไปดูประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 115 ซึ่งบัญญัติว่า “การใดมิได้ทำให้ถูกต้องตามแบบที่มีกฎหมายบังคับไว้ การนั้นท่านว่าเป็นโมฆะ” ดังนั้น เรื่องนี้ จึงจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องทำหนังสือถึง รมว.มหาดไทย และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้ตรวจสอบว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวทั้งระบบ มีการได้รับอนุญาตหรือได้รับสัมปทานจากรัฐมนตรี ตามประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 58 โดยถูกต้องครบถ้วน หรือไม่ หากไม่มี จะถือว่าสัญญาหรือนิติกรรมใด ๆ เป็นโมฆะ ตามความใน ป.พ.พ. มาตรา 115 หรือไม่ และจะต้องระงับหรือยกเลิกสัญญาที่เกี่ยวข้อง หรือไม่
กรณีโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เกิดขึ้น ทำให้นึกถึงโครงการจัดซื้อรถเรือดับเพลิงของ กทม. ในอดีต ซึ่งตนไม่อยากให้เกิดเรื่องซ้ำรอยในลักษณะดังกล่าวขึ้นมาอีก เพราะจะเกิดปัญหาฟ้องร้องดำเนินคดีกันไปมา และประชาชนอาจต้องรับภาระด้วย จึงจำเป็นต้องทำหนังสือถึง รมว.มหาดไทย และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร