เมื่อวันที่ 28 มี.ค. รายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ แจ้งว่า ความคืบหน้าการจัดทำรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อของพรรคประชาธิปัตย์ แม้เป็นที่แน่ชัดว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค และนายเทอดพงษ์ ไชยนันทน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคฯ จะไม่ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในครั้งนี้แต่พบว่ายังมีปัญหาวางลำดับตัวบุคคลที่ไม่ลงตัว โดยมีสมาชิกพรรคฯ บางส่วนพยายามเข้าไปพูดคุยกับ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค และนายเฉลิมชัย เพื่อขอให้ช่วยพิจารณาการจัดลำดับให้อยู่คาดว่าจะได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. แต่กลับไม่ได้รับการการันตีใดๆ ในเวลานี้ เนื่องจากต้องพิจารณาจากหลายปัจจัย

ส่วนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ ในวันที่ 29 มี.ค.นี้ อาจแค่ให้ความเห็นชอบรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน และจะสรุปความเห็นร่วมกันว่าจะให้ใครเป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจในการจัดเรียงลำดับรายชื่อดังกล่าว และการจัดลำดับนี้ยังปรับเปลี่ยนได้จนถึงวันที่ 3 เม.ย. ก่อนยื่นสมัครในวันที่ 4 เม.ย. ทั้งนี้ ในการพูดคุยประเมินกันภายในหมู่สมาชิกพรรคฯ คาดว่าพรรคอาจจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 10 คน หรืออาจมากกว่านั้นเล็กน้อย

อย่างไรก็ตาม มีสมาชิกพรรคฯ บางส่วนพยายามเคลื่อนไหวในหลายรูปแบบ เพื่อความมั่นใจจากผู้บริหารหรือผู้ใหญ่ในพรรคว่าตัวเองจะได้อยู่ในลำดับที่ปลอดภัย อาทิ กรณีของ น.ส.จิตภัสร์ ตั๊น กฤดากร รองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีกระแสข่าวว่าได้ไปพูดคุยกับ นายเฉลิมชัย เมื่อคืนวันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ช่วยจัดให้อยู่ในลำดับที่ปลอดภัย หรืออย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่าให้อยู่ในลำดับที่ 15 แต่คาดว่าการพูดคุยดังกล่าวอาจไม่เป็นผล เพราะในคืนวันดังกล่าว น.ส.จิตภัสร์ ได้โพสต์ข้อความเชิงตัดพ้อในเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุว่า

“อยู่ที่ไหนก็ได้ ที่เค้าเห็นคุณค่าและผลงานของเรา 13 ปี กับ พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี ลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก ในนามพรรคประชาธิปัตย์ รู้สึกเสมอมาว่าเป็นความภาคภูมิใจของตัวเราเองที่ได้ลงในนามพรรค เป็นพรรคที่สอดคล้องกับอุดมการณ์เพื่อพี่น้องประชาชนตามความตั้งใจของตั๊นตั้งแต่เด็ก วันนี้ตั๊นไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องเป็นบ้านหลังไหน ขอเพียงมีอุดมการณ์เดียวกัน และให้โอกาสเราได้ทำงาน เพราะตั๊นยังยึดมั่นผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก

ตลอดระยะ 13 ปี บนเส้นทางการเมือง ที่ได้มีโอกาสไป 76 จังหวัด ได้รับฟังปัญหา หาทางแก้ไขประสานงานเพื่อพี่น้องประชาชนมาตลอด ได้มีโอกาสทำงานกับผู้หลักผู้ใหญ่มากประสบการณ์ ทั้งเรียนรู้และปฏิบัติเอง นี่คือเส้นทางที่เราเลือกแล้ว เส้นทางการเมืองนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ นามสกุลก็เปลี่ยนมาแล้ว ผ่านมาทุกรูปแบบ งานในสภา ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหน ตั๊นก็ขอทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนและประเทศชาติตลอดไปค่ะ”

จากการโพสต์ดังกล่าว ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากภายในพรรคฯ ขณะเดียวกันได้มีกระแสข่าวว่ามีแกนนำของบางพรรคการเมืองมาชักชวนให้ น.ส.จิตภัสร์ย้ายสังกัดเพื่อไปร่วมทำงานการเมืองด้วยกัน.