เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวน สน.พระราชวัง นำตัว นายศุทธวีร์ สร้อยคำ อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาพ่นสีสเปรย์ใส่กำแพงรั้วพระบรมมหาราชวัง ว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งโบราณสถาน และขูด ขีด เขียน พ่นสี หรือให้ปรากฏด้วยประการใดๆ ซึ่งข้อความ ภาพ หรือรูปรอยใดๆ ที่กำแพงที่ติดกับถนนหรือในที่สาธารณะ” มาฝากขังครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่ 29 มี.ค.-9 เม.ย. 66 เนื่องจากยังสอบสวนไม่เสร็จสิ้น
พฤติการณ์คือ เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 66 เวลาประมาณ 17.40 น. ขณะที่ตำรวจชุดจับกลุ่มได้ออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุได้พบ นายศุทธวีร์ ผู้ต้องหา กำลังพ่นสีสเปรย์อยู่บริเวณกำแพงรั้วพระบรมมหาราชวัง ฝั่งถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ โดยมีพวกของผู้ต้องหาทำหน้าที่ถ่ายภาพเคลื่อนไหวบันทึกไว้ ขณะที่ผู้ต้องหากำลังพ่นสีอยู่นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้ทำการเข้าจับกุมและสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้คนเดียว ส่วนคนอื่นหลบหนีไป จากนั้นจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ต้องหาทราบ พร้อมนำผู้ต้องหาและของกลางส่งพนักงานสอบสวนดำเนินตามกฎหมาย
รวบทันควัน ศิลปินอิสระ กลุ่มปลดแอกพ่นสีสเปรย์กำแพงวัดพระแก้ว
เหตุเกิดที่ กำแพงรั้วพระบรมมหาราชวังฝั่งถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร
การกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิด ตาม พ.ร.บ.โบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. 2535, มาตรา 32 วรรคแรก และ พ.ร.บ.พระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 12, 56 ประกอบประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83
ในชั้นจับกุมและสอบสวน ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีและยากแก่การติดตามตัวมาดำเนินคดีในภายหลัง
ศาลพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ฝากขังได้.
ภายหลังจากกระบวนการฝากขังเสร็จสิ้น ผู้ต้องได้ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว
ศาลพิเคราะห์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ประกันตัว แต่เนื่องจากผู้เสียหายเคยกระทำผิดในลักษณะเดียวกันมาก่อน จึงวางเงื่อนไขห้ามกระทำในลักษณะเดิม ทั้งยังให้วางหลักทรัพย์ประกันจำนวน 50,000 บาท ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนราษฎรประสงค์